หนุ่มหายตัวปริศนาที่จังหวัดแพร่

      ชายหนุ่มเป็นคนจังหวัดแพร่ เดินทางเข้าป่าพร้อมกับหมาคู่ใจชื่อว่าไอ้ขาว เมื่อวันที่ 4 เดือนเมษายน ปี พ.ศ. 2563  ซึ่งผ่านไปหลายวันชาวบ้านพบว่าหมาของชายหนุ่มเดินทางกลับออกมาจากป่าตัวเดียว เมื่อวันที่ 6 เดือนเมษายน ปี พ.ศ. 2563 

หลังจากนั้นภรรยาของชายหนุ่มที่หลงป่าก็พาญาติออกติดตามหาตัวแต่ก็ไม่พบประมาณวันที่ 10เมษายน จึงได้มีการเชิญพระมาทำบุญเพื่อทำเรื่องเปิดป่าขอให้สามารถตามหาตัวชายหนุ่มเจอและในวันที่ 11 เมษายนชาวบ้านและภรรยาก็ไปพบศพของชายหนุ่มที่ตามหาอยู่

      โดยเหตุการณ์ในครั้งนี้ภรรยาของชายหนุ่มคนดังกล่าวได้มีการเล่าเรื่องราวให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจและนักข่าวฟังว่าชายหนุ่มที่กำลังเป็นข่าวอยู่นี้ชื่อว่าคุณบุญแปง โดยปกติแล้วคุณบนแปลงมักจะออกไปหาของป่ามาขายอยู่เสมอซึ่งในครั้งนี้คุณแปลงก็มีการเตรียมข้าวของการเดินป่าไม่ว่าจะเป็นอาหารกระป๋องข้าวสารนมและน้ำเดินทางเข้าป่า

โดยมีการออกจากบ้านไปตั้งแต่เมื่อวันที่ 4 เมษายนซึ่งไปพร้อมกับหมาคู่ใจของเขานั่นก็คือไอ้ขาวหรือล่าสุดที่ภรรยาของคุณแปลงเห็นสามีของตนเองนั้นก็คือขี่รถจักรยานยนต์ออกไปหลังจากวันที่ 4 เมษายนเป็นต้นไม้ภรรยาก็ไม่เห็นสามีของตนเองอีกเลยแต่พอวันที่ 6 เมษายนหมาที่ไปพร้อมกับคุณแปลงก็เดินทางกลับมาที่บ้าน

แต่ก็ไม่เห็นตัวคุณแปลงจึงได้ที่ออกตามหาโดยมีการเชื่อกันว่าคุณมนแปลงน่าจะมีการหลงป่าอยู่แต่หาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอจนวันที่ 10 เมษายนจึงได้เชิญพระสงฆ์มาทำพิธีเปิดป่าเพราะเชื่อว่าอาจจะโดนสิ่งศักดิ์สิทธิ์บังตาไม่ให้มองเห็นหลังจากทำพิธีเปิดป่าเสร็จแล้ววันที่ 11 เมษายนชาวบ้านก็มาพบคุณแปลงตกเหวชีวิตอยู่จากการชันสูตรศพพบว่ามีการเสียชีวิตมานานแล้ว

ซึ่งก็มีการสันนิษฐานกันว่าคุณแปรงน่าจะมีการหน้ามืดเพราะอากาศร้อนแล้วอาจจะเผลอร่วงลงไปในเหวซึ่งทำให้เสียชีวิตได้แต่หลายคนก็เชื่อว่าในป่านั้นมีสิ่งเร้นลับมีอาถรรพ์และเชื่อว่าการที่ตามหาคุณบุญแปลงไม่เจอสักทีนั้นมาจากการที่เจ้าป่าเจ้าเขาอาจจะบังตา ทำให้ชาวบ้านที่ออกตามหาตั้งแต่เมื่อวันที่ 6 ไม่พบกับคุณบุญแปลงทั้งที่ชาวบ้าน

ก็ผ่านมาบริเวณจุดนี้แต่ก็ไม่พบบางคนก็บอกว่าที่คุณแปลงต้องมาประสบเหตุในครั้งนี้เพราะว่าเจ้าป่าเจ้าเขาอาจจะต้องการตัวตายตัวแทนซึ่งส่วนใหญ่ก็วิจารณ์กันไปถึงเรื่องของความลี้ลับสำหรับศพของคุณแปลงนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะมีการส่งพิสูจน์หลักฐานต่อไป

 

ขอขอบคุณเว็บ  sagame  ที่ให้การสนับสนุน

สาเหตุที่ทำให้ลำปางปลอดเชื้อโควิด 19 

ก่อนอื่นต้องบอกว่าทำไมเราต้องพูดถึงเรื่องของลำปางก็เพราะว่าในจังหวัดลำปางเป็นหนึ่งในไม่กี่จังหวัดของประเทศไทยเรานี้ซึ่งจากข้อมูลที่มีว่า 13 จังหวัดนั้น ที่มีการปลอดจากโลกแล้วจังหวัดลำปางก็เป็นจังหวัดใหญ่ ถือว่าค่อนข้างเก่งนะในการที่ทำให้จังหวัดของท่านนั้นเป็นจังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อว่าเป็นศูนย์ 

โดยเราจะย้อนไปดูว่าจังหวัดในภาคเหนือถือว่าเป็นจังหวัดใหญ่และจังหวัดลำปางก็ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดจังหวัดหนึ่งในประเทศไทย โดยมีข้อมูลพื้นฐานดังต่อไปนี้ เนื้อที่ประมาณ 7,833,726 ไร่แต่มีประชากรไม่มากเท่าไหร่นะ เท่ากับว่าความบางของประชากรนั้นบาง โดยประชากรมีเพียงแค่ 738,316 คนข้อมูลนี้จากเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งอาณาเขตทางเหนือติดต่อกับเชียงรายทางทิศใต้ก็ติดต่อกับตากทางทิศตะวันออกติดต่อกับจังหวัดแพร่

 และตะวันออกเฉียงเหนือติดต่อกับจังหวัดพะเยา ทิศตะวันออกเฉียงใต้ติดต่อกับสุโขทัย ส่วนทางด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือก็ไปติดต่อกับ จังหวัดเชียงใหม่และก็จังหวัดลำพูน เรื่องจะเห็นได้ว่ารายล้อมไปด้วยผู้ที่ติดเชื้อโควิก ที่มีค่อนข้างเยอะพอสมควรและมีจังหวัดที่น่าชมจังหวัดก็คือจังหวัดน่าน คือถ้าเลยแพ้ออกไปนั่นก็คือหน้าและนั่นก็คือและนั่นคือจังหวัดใหญ่ ที่นั่นก็ยังไม่มีผู้ป่วย ทำให้ไม่มียอดผู้ป่วยหรือญาติผู้ป่วยนั้นเป็นศูนย์นั่นเอง เพลงเราคงต้องมาชื่นชมกัน 

จะเห็นได้ว่าลำปางนั้นคือพื้นที่ใกล้เคียงกลับเชียงใหม่ที่ติดโรคไปแล้ว 30 คน ซึ่งมีลำพูนปิดไปแล้ว 2 คน แม่ฮ่องสอน 5 และตาก 2 สุโขทัย 3และแพร่ 1พะเยาอีก 2 ซึ่งจะเห็นได้ว่าลำปางนั้นไม่พบผู้ติดเชื้อดังนั้นมีความสงสัยว่าลำปางเขามีวิธีการจัดการอย่างไรกัน ซึ่งมีการสงสัยว่าท่านผู้ว่าราชการจังหวัดนั้นเขามีการเตรียมตัวในการรับมือเกี่ยวกับเชื้อไวรัสชนิดนี้อย่างไร ดังนั้นเราได้คำตอบว่าเขาได้มีการเริ่มรับมือตั้งแต่ที่อู่ฮั่นนั้นมีการปิดเมือง

 ซึ่งเขานั้นได้มีการวางแผนมาตั้งแต่อู่ฮั่นของจีนนั้นได้มีการปิดเมืองซึ่งอู่ฮั่นนั้นมีการปิดเมืองตั้งแต่23 มกราคมตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาหลังจากนั้น 24 วันก็ได้มีผู้ติดเชื้อตามมาซึ่งหลังจากนั้นพอรู้ว่าอั้นเป็นเมืองทางผู้ว่าราชการจะได้มีมาตรการในการจัดการเพื่อเป็นการจัดการรับเชื้อไวรัสซึ่งเขาได้มีการเรียกประชุมในวันรุ่งขึ้นของการปิดเมืองของอู่ฮั่นในทันที

โดยประกาศเรียกทุกฝ่ายในจังหวัดนั้นเข้ารับการประชุมร่วมกันโดยการนำข้อมูลของอู่ฮั่นไปบันทึกและวิเคราะห์ในรูปแบบต่างๆโดยมีการหาสาเหตุของการแพร่ระบาดหาแนวทางรับมือกับไวรัสและมีการศึกษาถึงธรรมชาติของไวรัสโคโรน่าว่ามันมีลักษณะอย่างไรซึ่งพูดง่ายๆว่าเราได้เตรียมตัวตั้งแต่รู้เรื่องจึงทำให้เขาพัฒนาและรับมือกับเชื้อโรคเหล่านี้ได้เป็นอย่างดีจึงทำให้ทั้งจังหวัดของเขาปลอดเชื้อมาจนถึงทุกวันนี้นั้นเอง

 

สนับสนุนโดยเว็บ  bk8

แมลงวันบุกบ้านชาวจังหวัดฉะเชิงเทราเดือดร้อนหนักมาก

       มีรายงานข่าวแสดงถึงความเดือดร้อนของชาวบ้านอำเภอพนมสารคามจังหวัดฉะเชิงเทราว่าในขณะนี้มีชาวบ้านที่อยู่ในหมู่บ้านหนองกะพ้อได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมากจากเหล่าแมลงวันที่บินมารบกวนชาวบ้านซึ่งแมลงวันที่บุกเข้ามารบกวนชาวบ้านเขาหมู่บ้านนี้ไม่ใช่เพียงแค่ตัวสองตัวเท่านั้นแต่มีมากนับเป็นหมื่นเป็นแสนตัวเลยทีเดียวโดยในหมู่บ้านนี้มีประชากรหลายร้อยหลังคาเรือนซึ่งแต่ละหลังคาเรือนต่างก็ได้รับความเดือดร้อนจากแมลงวันเหล่านี้เป็นจำนวนมาก

โดยพวกมันบุกเข้าไปทางในห้องน้ำ   ห้องนอน   ห้องกับข้าว  ทำให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมากซึ่งปัจจุบันวิธีการแก้ไขของชาวบ้านทำได้เพียงซื้อที่ดักแมลงวันมาเท่านั้นแต่ก็สร้างผลกระทบให้กับชาวบ้านเป็นอย่างมากเพราะต้องเสียเงินเป็นจำนวนมากในการซื้อที่ดักแมลงวันมาใช้และถึงแม้จะซื้อที่ดักแมลงวันมาใช้จับแมลงวันเสาร์นี้

แต่ก็ไม่เพียงพอกับจำนวนแมลงวันที่มีมากขึ้นเรื่อยๆเรื่องชาวบ้านต่างก็วิตกกังวลกันเป็นอย่างมากกว่าแมลงวันเหล่านี้จะเป็นพาหะนำเชื้อโรคมาสู่หมู่บ้านทำให้หมู่บ้านอาจจะเกิดเชื้อโรคแปลกใหม่เกิดขึ้นอีกเพราะตอนนี้แค่เพียงเชื้อไวรัสโควิด-19 ก็เดือดร้อนมากพออยู่แล้ว  หากต้องมาเจอเชื้อโรคกับแมลงวันอีกเกรงว่าหมู่บ้านจะแย่ลงกว่าเดิมมาก  ซึ่งชาวบ้านก็พากันถ่ายภาพแมลงวันที่ลูกหลานเข้าไปในบ้านของตนเองออกมาเผยแพร่ให้ชาวโซเชียลได้เห็นกัน

ซึ่งเป็นภาพที่น่ากลัวมากเพราะเราจะเห็นได้ว่าแมลงวันเกาะอยู่ตามผนังและพื้นจนแทบจะมองไม่เห็นพื้นเลยทีเดียวมองเห็นแต่ตัวแมลงวันเกาะเต็มไปหมดซึ่งเป็นภาพที่ไม่น่าชมเป็นอย่างมากแต่ถ้าหากเป็นชาวบ้านที่อยู่ในหมู่บ้านที่ต้องเจอกับแมลงวันเหล่านี้เป็นประจำทุกวัน คงจะรู้สึกรำคาญและต่างก็คงต้องกลัวเธอโรคจากแมลงวันเหล่านี้กันบ้างจริงๆดูจากสถานการณ์แล้วแทบไม่น่าจะอาศัยอยู่ในบ้านที่มีแมลงวันดังกล่าวได้เลยโดยชาวบ้านให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าแมลงวันที่มีมานี้คาดว่าจะมาจากสถานที่ที่เปิดเลี้ยงหมู  เป็ด   ไก่  

ซึ่งเป็นแหล่งเพาะพันธุ์แมลงวันอย่างดีเยี่ยมดังนั้นชาวบ้านจึงต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูพื้นที่ตามสถานที่เลี้ยงเป็ดไก่เหล่านั้นว่ามีแมลงวันมากน้อยแค่ไหนและให้ช่วยกำจัดแมลงวันเหล่านั้นไปเพราะเกรงว่าจะเกิดอันตรายและเกิดเชื้อโรคขึ้นมาใหม่จากแมลงวันที่เป็นพาหะนำเชื้อโรคมาอย่างไรก็ดี

เรื่องนี้คงต้องรอให้ทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันและปราบปรามเชื้อโรคหรือกลุ่มสุขอนามัยต่างๆให้ลงมาดูพื้นที่พร้อมจัดหาวิธีกำจัดแมลงวันเหล่านี้อาจจะต้องมีการฉีดพ่นยาฆ่าแมลงวันเพื่อทำความสะอาดหมู่บ้านเพราะไม่ฉะนั้นหนึ่งในโลกที่จะเกิดขึ้นกับหมู่บ้านแห่งนี้คืออหิวาตกโรคแน่นอนเพราะแมลงวันเป็นพาหนะในการนำเชื้อโรคมาสู่มนุษย์ได้หลายโรคเลยทีเดียว 

เมียศรรามงามหน้าแจ้งจับข้อหาหลอกขายหน้ากากอนามัยปลอม

  ภรรยาคนสวยของพระเอกหนุ่มคนดังศรราม  เทพพิทักษ์  ได้ถูกผู้เสียหายคนหนึ่งเดินทางเข้ามาแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเกี่ยวกับการที่ภรรยาคนสวยของพระเอกคนดังได้หรอขายหน้ากากอนามัยให้เป็นจำนวนเงินเกือบล้านบาทโดยทางผู้เสียหายแจ้งว่ามีการสั่งหน้ากากอนามัยจากภรรยาของศรรามเทพพิทักษ์เป็นจำนวนมากถึงสองแสนชิ้น ด้วยกัน 

ซึ่งการเข้าแจ้งความในครั้งนี้ผู้เสียหายได้นำตัวนายอัจฉริยะมาเป็นทนายความบริการแจ้งความในครั้งนี้ด้วยโดยทางผู้เสียหายอ้างว่าภรรยาของนายศรรามเทพพิทักษ์ได้รับปากจะมีการส่งของให้จำนวนสองแสน ชิ้นตั้งแต่เมื่อวันที่ 13 เดือนมีนาคมแต่จนถึงณปัจจุบันก็ยังไม่ได้สินค้าและเมื่อต้องการจะให้โอนเงินคืนพญาของศรรามก็ทำการบ่ายเบี่ยงไม่ยอมโอนเงินคืนกลับมาให้โดยเหตุการณ์ในครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อภรรยาของศรรามเทพพิทักษ์ได้มีการประกาศขายหน้ากากอนามัยผ่านทาง facebook

ผู้เสียหายจึงดำเนินการสอบถามฝ่ายต่างๆและได้มีการนัดสั่งซื้อสินค้ากันเนื่องจากเห็นว่าผู้ขายเป็นถึงภรรยาของพระเอกดังแล้วก็สามารถส่งเอกสารรวมถึงถ่ายรูปสินค้าและระบุมีการนัดหมายกันอย่างชัดเจนเธอจึงได้ทำการตัดสินใจซื้อสั่งหน้ากากอนามัยไป  โดยทางภรรยาของนายศรรามระบุว่าหน้ากากอนามัยที่รับมานี้ส่งตรงมาจากประเทศเวียดนามเธอสามารถนำเข้ามาได้ในราคาถูกซึ่งภรรยาของนายศรรามเทพพิทักษ์ได้ขายให้เธอในราคาชิ้นละ 9 บาท 50 สตางค์

ดังนั้นเธอจึงได้โอนเงินไปให้ภรรยาของนายศรรามโดยครั้งแรกโอนไปสี่แสน บาทหลังจากนั้นก็มีการโอนไปเรื่อยๆอีกหลายครั้งโดยรวมแล้วมีการโอนเงินไปทั้งสิ้นกว่า เก้าแสน บาท   สำหรับนายอัจฉริยะนั้นเดินทางมาเป็นเพื่อนผู้เสียหายและต้องการดำเนินคดีความกับภรรยาของนาย ศรรามเทพพิทักษ์

ซึ่งนายอัจฉริยะเชื่อว่ายังมีผู้เสียหายอีกหลายคนที่อาจจะถูกภรรยาของนายศรรามหลอกลวงหลอกขายหน้ากากอนามัยให้และโดยส่วนตัวแล้วไม่เชื่อว่าภรรยาของศรรามจะมีหน้ากากอนามัยเป็นจำนวนมาถึงเป็นแสนชิ้นมาขายให้กับคนอื่นได้อีกอย่างเอกสารที่ทางผู้เสียหายทำให้นายอัจฉริยะดูนายอัจฉริยะบอกว่าเอกสารพวกนั้นเป็นเอกสารปลอมแทบทั้งสิ้น

และที่สำคัญเมื่อมีการเช็คไปยังชื่อของภรรยาของนายศรรามก็ไม่ได้พบว่ามีการเปิดบริษัทเกี่ยวกับเรื่องของการส่งออกแต่อย่างใดดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้พี่พระยาของนายศรรามจะสามารถส่งซื้อสินค้าแล้วนำมาขายในเมืองไทยได้และที่สำคัญก่อนที่จะเดินทางมาแจ้งความพยายามของนายศรรามพยายามที่จะโทรหานายอัจฉริยะ

เพื่อตกลงเจรจากันแต่นายอัจฉริยะได้ทำการปฏิเสธที่จะพูดคุยเพราะต้องการที่จะดำเนินคดีกับภรรยาของนายศรรามยังไงก็ตามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังสอบสวนและรวบรวมข้อมูลหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมแล้วจะทำเรื่องติดต่อไปยังภรรยาของนายศรรามต่อไปเพื่อให้มาให้ปากคำ 

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย  rb88

สั่งผัดกระเฉดกุ้งราดข้าวจานเดียว 100 บาท

ล่าสุดได้มีชาวบ้านไปซื้อผักกระเฉดกุ้งราดข้าว แม่ค้าคิดราคา 100 บาท แม่ค้ามาเสิร์ฟได้เห็นว่ามีกุ้งสดๆ 3 ตัววางเรียงกันอยู่ แล้วเขาก็จะสงสัยว่าเฮ้ยแพงไปหรือเปล่ากระเฉด 100 บาท ปกติซื้อร้านไหนก็ไม่น่าจะถึง 100 บาท ร้านที่ว่านี้ตั้งอยู่ข้างถนนและเป็นร้านพวกขายอาหารตามสั่งแต่เมนูที่ร้านทำอร่อยที่สุดคือผักกระเฉดหลังจากที่มีชาวบ้านไปซื้อผักกระเฉดกุ้งราดข้าวแล้วแม่ค้าคิดราคา 100 บาท

ทำให้เธอโกรธมากและถามว่าทำไมถึงราคาแพงจังซื้อที่ไหนก็ไม่เห็นราคาเป็นแบบนี้นี่เป็นเพราะอะไรถ้าแม่เค้าบอกว่าเป็นเพราะว่าของเธอดีกว่าร้านอื่นๆของที่เธอใช้ก็ราคาแพงๆทั้งนั้นแม้กระทั่งผักยังแพงแต่จากเท่าที่ดูแล้วผู้ที่โพสต์เรื่องราวเรื่องผักกระเฉด 100 บาทแม่บอกว่าหน้าตาอย่างนั้นน่ะไปซื้อที่ตลาดสดเขายังทำหน้ากินกว่าเลย งั้นได้มีคนอีกคนหนึ่งออกมาโพสต์ว่าฉันเป็นคนจนแต่เมื่อฉันอาหารผักกระเฉดร้านนี้ฉันไม่ได้ราคา 100 บาทบางทีก็ 70 หรือ 50 บาท

เมื่อนักข่าวไปถามกับแม่ค้าว่าทำไมถึงแต่ละคนราคาไม่เท่ากันแม่ค้าก็ตอบว่าแม่ค้าดูและคิดราคาจากการแต่งตัวของลูกค้าที่มาซื้อผ้าแต่งตัวดูเป็นคนจนเธอก็จะคิดราคา 50 หรือ 70 บาทเท่านั้นแต่ถ้าแต่งตัวดูเป็นคนรวยแล้วจะคิดราคา 100 บาทหรือมากกว่านั้น อย่างเช่นเกาเหลาของร้านป้าคนนี้ป้าแกก็บอกว่ามีอยู่วันนึงที่คนขับแท็กซี่มาซื้อเกาเหลาที่ร้านป้ากินแต่ป้าไม่ได้คิดราคา 100 บาทแบบที่คิดคนอื่นนะป้าเห็นว่าเขาดูจนป้าเลยคิดราคาเขา 50 บาทเท่านั้นป้ายืนยันว่าที่คิดราคาแพงหรือถูกนั้นไม่ได้แปลว่าเราเลี้ยงหรือสองมาตรฐาน

เพียงแต่ว่าดูจากการแต่งตัวถ้าแต่งตัวรวยแต่งตัวดูดีก็แปลว่ามีเงินเยอะก็จ่ายไหวแต่ถ้าเกิดว่าแต่งตัวดูจนๆก็แปลว่าคงจ่ายแพงมากไม่ได้จึงได้คิดราคาถูกให้เป็นพิเศษถ้าไม่มีคนรวยหลายๆคนมาบอกว่าก็รู้ตัวดีว่ารวยแต่ถ้าคิดอย่างนี้เงินเก็บก็หมดสิป้า ทางคุณป้าที่เป็นผู้ขายยังได้บอกอีกว่าที่คิดราคาแพงสูงเร็วขนาดนั้นนั่นก็เพราะว่าวงแขน 3 ตัวที่เธอซื้อมาก็ 45 บาทแล้วเนี่ยไปรวมกับข้าวผัดเนี่ยป้าคิดอีก 20 บาทก็รวมเป็น 65 บาทหลังจากนั้นนักข่าวถามอีกว่าแล้วค่าอะไรอีกล่ะแม่ค้าก็บอกว่าค่าข้าวคิดอีก 10 บาทรวมเป็น 75 บาท

ส่วนที่เหลือแม่ค้าก็เก็บเงินจากค่าซีอิ๊วขาวผักค่าน้ำมันก็แปลกใจนะคะว่าทำไมต้องมาเก็บเงินกันขนาดนี้ถามว่ากำไรของแม่ค้าได้เท่าไหร่ถามแม่ค้าบอกว่า 20 บาทเป็นแม่ค้าคนไทยด้วยกัน 20 บาทก็พอแต่ถ้ารวมหลายๆเดือนถ้าคนซื้อเยอะๆนะคะแล้วก็ได้เงินเยอะมากแต่ใจอีกครึ่งนึงก็สงสารเขาเศรษฐกิจมันเป็นอย่างนี้แล้วจะไปทำอะไรได้นะคะนอกจากจะต้องหารายได้จากทางนี้

แค้นถูกตบ สั่งน้องชายยกพวกรุมตีพี่เขย 

    ได้มีเหตุทำร้ายร่างกายกันและมีคนตาย 1 คนบาดเจ็บอีก 1 คน

โดยคนร้ายมีทั้งหมดประมาณ 4 คน ซึ่งจากกาสอบถามทางคนที่บาดเจ็บได้ให้ข้อมูลว่า ปมเหตุที่เกิดการทำร้ายกันขึ้นเนื่องจากว่า ตนเองได้มีปากเสียงกับภรรยา และได้ลงมือทำร้ายภรรยาด้วยการตบเข้าที่ปาก เป็นสาเหตุให้ภรรยาไม่พอใจและไปฟ้องน้องชาย ซึ่งน้องชายของภรรยาและตนเองไม่ค่อยจะถูกกันอยู่แล้ว เจอหน้ากันก็เขม่นกันตลอด จนไปมีเรื่องกับภรรยา น้องชายภรรยาก็โทรเข้ามาหาตนให้ออกไปเคลียกันซึ่งในขณะนั้นตนเองอยู่กับเพื่อนอีกคนที่ชื่อ รอฮิม

ซึ่งคุณ รอฮิม กลัวว่าตนเองจะถูกลรุมกระทืบ จึงได้เดินออกมาเป็นเพื่อนเพื่อเจรจากับน้องชายของภรรยา แต่เมื่อมาถึงกลับถูกรุมทำร้ายโดยมีกลุ่มวัยรุ่นคือน้องชายของภรรยาเป็นคนนำ ซึ่งมีคนถือไม้มาทำร้ายสองคน อีกคนถือค้อน และอีกคนถือขวด เข้ามา และตรงเข้ามาทำร้ายตนเองและเพื่อนที่ตายทันที โดยตนเองเห็นว่ามีภรรยายืนดูอยู่ด้วยขณะที่ตนและเพื่อนโดนทำร้าย ซึ่งเพื่อนไม่ได้รู้เรื่องกับปัญหาในครั้งนี้เลย แต่ต้องมาจบชีวิตลงเพียงแค่ต้องการมาห้ามไม่ให้ตนถูกทำร้ายเท่านั้นเอง ซึ่งจากการสอบถามเพื่อผู้ตายและเป็นต้นเหตุของการถูกทำร้ายในครั้งนี้ชื่อว่า คุณอนุกูล

ซึ่งคุณอนุกูล บอกกับนักข่าว ถ้าตนเองหนีไม่ทันอาจจะเสียชีวิตด้วยอีกคนเพราะทั้งสี่คน เตรียมอาวุธเข้ามาครบมือยังกับว่าต้องการฆ่ากันให้ตายเลยทีเดียว โชคดีที่คุณอนุกูล วิ่งหนีไปยังที่บ้านของคนอื่นเพื่อแอบซ่อนตัวจึงรอดมาได้ แต่เพื่อนของตน นายอนุกูลนั้นวิ่งหนีเข้าซอยไปซึ่งเป็นซอยตัน จึงทำให้ถูกรุมทำร้ายจนเสียชีวิต ทั้งนี้เหตุการณ์ทั้งหมดได้มีภาพจากกล้องวงจรปิดเป็นหลักฐานอย่างชัดเจน  

          เหตุการณ์ครั้งนี้ถือว่าเป็นการฆ่ากันอย่างอุกอาจมาก เพราะภาพที่เห็นจากกล้องวงจรปิดดูแล้ว พวกวัยรุ่นเหล่านั้น  ไม่ได้เกรงกลัวกฎหมายเลย สถานที่เกิดเหตุคือ ซอยอ่อนนุช 27 แยก 22 เนื่องจากมีหลักฐานจากกล้องวงจรปิดทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถตามจับตัวคนร้ายมาลงโทษได้แล้วซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นเยาวชนอายุเพียงแค่ 16 ปีเท่านั้นเอง

และจากการสอบถามแม่ของเด็กที่ทำร้ายคนตายถึงแก่ชีวิตต่างก็บอกว่าลูกของตัวเองเป็นคนดี ไม่มีนิสัยเกเร และวันที่เกิดเหตุก็ไม่ได้อยากไปทำร้ายใครเพียงแต่เพื่อนชวนจึงจำเป็นต้องออกไป  ซึ่งเรื่องนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไงก็ต้องดำเนินคดีกับกลุ่มวัยรุ่นเหล่านั้นเพราะมีหลักฐานชัดเจนมาก

 

ขอบคุณผู้ที่ให้การสนับสนุน  dewabet

ทหารเรือมาเฟีย แถวเมืองทอง

มีเหตุการณ์ที่ทหารเรือกับประชนชนทะเลาะกันที่ เมืองทองธานี

โดยมีคนถ่ายคลิปวีดิโอไว้เป็นหลักฐานและจากเหตุการณ์ที่ดูจากในคลิปจะเห็นว่า มีผู้ชายสูงอายุคนหนึ่งที่อ้างตัวเองว่าเป็นทหารกำลังส่งเสียโวยวายด่าทอผู้ชายคนหนึ่งที่อายุน่าจะประมาณ ยี่สิบกว่านิดนิด และก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาช่วยระงับเหตุการณ์ แต่เรื่องราวไม่ได้จบเพียงเท่านั้น

เพราะชายคนดังกล่าวอ้างว่าตัวเองเป็นทหารและพูดจากข่มขู่เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้ามาปฏิบัติหน้าที่  ซึ่งทหารคนดังกล่าวบอกว่าจะย้ายตำรวจคนที่มาในที่เกิดให้เพราะตนเองเส้นใหญ่และรู้จักกับผู้กำกับอีกทั้งยังพูดแต่ว่าตนเองไม่ผิด แต่พยายามตะเบ็งเสียงตะโกนตลอดเวลา และยังมีการขู่จะยิงกับคนที่กำลังมีเรื่องด้วย โดยในคลิปจะเห็นว่าทหารเรือคนดังกล่าวได้ถือกระเป๋าสีดำไว้ข้างตลอดเวลา ซึ่งมีการคาดการณ์กันว่าในกระเป๋าสีดำนั้น อาจจะมีปืนอยู่

โดยคนที่มีเรื่องกับทหารได้บอกว่าก่อนที่จะมีการถ่ายคลิปทหารคนดังกล่าวยังขู่จะก่อเหตุกราดยิงเหมือนกับเหตุการณ์ที่ห้าง Terminal 21  อีกด้วย ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้จบลงด้วย ทางผู้กำกับต้องเดินทางมาที่เกิดเหตุเองและเชิญตัวทหารคนที่ก่อเหตุให้เดินทางไปที่ให้ปากคำที่สถานีตำรวจ ซึ่งเรื่องนี้ทางนักข่าวได้มีการลงไปขอสัมภาษณ์คนในพื้นที่เมืองทองธานี โดยคนในพื้นที่ต่างก็ให้ข้อมูลตรงกันว่าชายคนดังกล่าวเป็นทหารเรือ

ซึ่งเป็นคนมีนิสัย นักเลง เวลาที่มีเรื่องไปขับรถเฉี่ยวชนกับใครไม่เคยยอมรับว่าตัวเองผิด และมักจะโวยวายเสียงดังและขู่จะเอาปืนยิงคนไปทั่ว ซึ่งคนที่อยู่ที่เมืองทองเจอกับเหตุการณ์แบบนี้กันบ่อยมากจนไม่มีใครสนใจอยากจะวุ่นวายกับทหารแก่คนดังกล่าว  ซึ่งตอนที่นักข่าวกำลังสัมภาษณ์ชาวบ้านอยู่นั้น ก็พบทหารคนดังกล่าวเดินผ่านมาพอดี

แต่พอจะขอสัมภาษณ์ทหารคนดังกล่าวก็เดินหนี และบอกแต่ว่าตอนเองบ้า และไม่ให้สัมภาษณ์ใดใดทั้งสิ้นเพราะตนเองไม่ใช่นักข่าว ซึ่งนักข่าวสังเกตเห็นว่า ทหารคนดังกล่าวมักจะถือกระเป๋าสีดำใบเดียวที่เป็นข่าวในคลิปไว้ตลอดเวลา ซึ่งคาดว่าอาจจะมีอาวุธปืนอยู่ข้างใน และในขณะเดียวกันทีคลิปนี้ได้เผยแพร่ออกไปจนเป็นข่าวดังใหญ่โต ทางกองทัพเรือได้ออกมายืนยันว่าชายคนดังกล่าวเป็นทหารเรือจริง

และได้ออกหนังสือเรียกตัวนายทหารคนดังกล่าวให้เข้ามาชี้แจงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับผู้บังคับบัญชาแล้ว

 เหตุการณ์ในครั้งนี้เราจะเห็นได้ว่า เวลาที่มีเรื่องคนมักจะเริ่มขู่การกราดยิง ซึ่งเหมือนกับเป็นการเลียนแบบ หวังว่าทางการทหารจะมีการตรวจสอบความผิดครั้งนี้ของชายคนดังกล่าวและมีการทำโทษทางวินัยให้หลาบจำ 

 

ขอบคุณเว็บ next88  ที่ให้เรื่องราวดีๆมานำเสนอ

มีประกาศจากจุฬา

มีประกาศจากจุฬา ขอความสั่งห้ามไม่ให้นักศึกษาและบุคลากรของมหาลัยไปต่างประเทศจำนวน 9 ประเทศที่เป็นกลุ่มเสี่ยง

 เมื่อวันที่ 27 เดือนมกราคม ปี ค.ศ. 2020 ทางมหาลัยจุฬาได้มีการประกาศอนุญาตให้เจ้าหน้าที่ของมหาวิทยาลัย รวมถึงนักเรียน และนักศึกษาของมหาวิทยาลัย สามารถลาหยุดได้ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด -19 ซึ่งกำลังเป็นปัญหาระดับโลกอยู่ในขณะนี้

โดยทางมหาลัยจะไม่เอาวันหยุดเหล่านี้

มานับเป็นวันลาให้เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่เชื้อไวรัสดังกล่าว แต่ในตอนนี้สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนายังคงรุนแรงขึ้นเรื่อยเรื่อย และมีคนที่ติดเชื้อมากขึ้นซึ่งยังไม่มีแนวโน้มว่าจะสามารถป้องกันการแพร่เชื้อระบาดนี้ได้ ดังนั้นทางมหาวิทยาลัยจึงได้เห็นสมควรว่าเพื่อเป็นการไม่ให้บุคลากรของมหาวิทยาลัยรวมถึงนักศึกษาของมหาวิทยาลัยได้รับเชื้อไวรัสนี้

จึงได้มีประกาศห้ามออกมาเกี่ยวกับการเดินทางไปต่างประเทศของนักเรียน นักศึกษารวมถึงพนักงานขององค์กรมหาวิทยาลัยในช่วงนี้ โดยจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ วันที่ 20 เดือนกุมภาพันธ์ ปี ค.ศ. 2020 ยาวไปจนถึงวันที่ 19 เดือนเมษายนปี ค.ศ. 2020 ซึ่งในระหว่างนี้ห้ามทุกคนในองค์กรรวมถึงนักเรียน

นักศึกษาด้วยเดินทางไปประเทศที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา ตามระยะเวลาที่มีการประกาศเอาไว้ ซึ่งมีการห้ามเดินทางไปประเทศต่อไปนี้  ประเทศเกาหลีใต้ , ประเทศไต้หวัน ,ประเทศจีน, ประเทศฮ่องกง, ประเทศมาเก๊า, ประเทศญี่ปุ่น , ประเทศมาเลเซีย , ประเทศเวียดนาม และประเทศสิงคโปร์

ซึ่งทั้ง 9 ประเทศนี้เป็นประเทศที่มีความเสี่ยงในการติเชื้อไวรัสมาก

เพราะตอนนี้ประเทศดังกล่าวมีผู้ติดเชื้อแล้วเป็นจำนวนมาก รวมถึงมีการแพร่เชื้อไวรัสกันแล้วที่สำคัญมีผู้ที่เสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสชนิดนี้มาแล้วหลายราย ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้คนในองค์กรและนักเรียน นักศึกษาของมหาวิทยาลัยจะติดเชื้อไวรัสดังกล่าว จึงมีการสั่งห้ามเดินทางไปประเทศที่แจ้งมาเหล่านี้ รวมถึงหากใครที่เคยขออนุญาตที่จะเดินทางไปประเทศเหล่านี้ก่อนที่จะมีการเกิดเรื่องของการแพร่ระบาดไวรัสเอาไว้และได้รับการอนุมัติไปแล้ว

ทางมหาวิทยาลัยได้ขอความร่วมมือในการเลือนการเดินทางออกไปก่อน ซึ่งจะสามารถเดินทางไปได้หลังจากที่สิ้นสุดวันประเทศห้าม และหากใครที่มีการทำเรื่องการเดินทางไว้แล้วในการขอเลือนการเดินทางหากมีค่าใช้จ่าย สามารถนำบิลค่าใช้จ่ายมาเบิกกับทางมหาวิทยาลัยได้ตามจริง และหากใครที่ได้รับการติดเชื้อหรือแม้แต่ถูกกักตัวเพื่อหาเชื้อไวรัส

หรือมีการตรวจสอบพบว่าอยู่ในคนที่มีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อทางมหาวิทยาลัย ขอให้บุคคลเหล่านั้นงดเข้าเรียนและเข้ามหาวิทยาลัย เพื่อไปรักษาตัวเองจนกว่าจะหายดี 

พบศพสาว 2 ตายคาห้องพักภายในบ้าน

สาวประเภทสองนอนตายในห้องไม่มีใครรู้พบอีกทีกลายเป็นศพนอนเปลือยช่วงล่างเลือดทะลักทั้งปากและตูด

   เกิดเหตุพบศพสาว 2 ตายคาห้องพักภายในบ้าน สภาพศพเปลือยด้านล่าง แถมยังมีเลือดออกทั้งทางปากและทางตูดอีกด้วย  ด้านญาติของคนเสียชีวิตคิดว่าอาจจะโดนทำร้ายจนกระอักเลือดตาย เพราะเมื่ออาทิตย์ที่แล้วผู้ตายไปเที่ยวกับเพื่อนแล้วโดนรุมกระทืบ ซึ่งผู้ตายได้แจ้งความเอาไว้แล้ว แต่เรื่องยังไม่ไปถึงไหน เหตุการณ์ในครั้งนี้เกิดขึ้นที่จังหวัดปทุมธานี

โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ไปยังสถานที่เกิดเหตุพร้อมด้วยหน่วยกู้ภัยและหมอของโรงพยาบาล และเมื่อเดินทางไปถึงจุดเกิดเหตุพบว่า ผู้เสียชีวิตนอนตายอยู่ในบ้านหลังหนึ่งลักษณะเป็นทาวน์เฮ้าส์ชั้นเดียว  ซึ่งภายในห้องที่เกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไปพบศพวัยรุ่นชายอายุประมาณ 18 ปี ซึ่งทางครอบครัวของผู้ตายบอกว่า ตัวผู้ตายเองเป็นสาวประเภทสอง

เมื่อหมอเข้าไปชันสูตรศพพบว่ามีการตายมาแล้วไม่น้อยกว่า 8-12 ชั่วโมงแต่อาจจะต้องนำตัวไปผ่าพิสูจน์ต่อที่โรงพยาบาล เบื้องต้นทางพบว่าคนตายไม่มีร่องรอยการถูกทำร้ายและภายในห้องทีเกิดเหตุก็ไม่มีการต่อสู้ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่าตามร่างกายของศพจะมีร่องรอยเขียวช้ำเป็นจำนวนมาก

ซึ่งร่องรอยที่ว่านี้ทางเพื่อนของคนตายได้เล่าให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจฟังว่า เกิดจากว่าเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ตนเองและคนตาย ได้ไปเที่ยวที่ผับแห่งหนึ่งในจังหวัดนนทบุรี ซึ่งเวลาคนตายไปเที่ยวจะแต่งตัวเป็นผู้หญิงและมีหน้าตาดี ซึ่งวันที่ไปเที่ยวคนตายได้เต้นโชว์ภายในผับ และมีคนสนใจคนตายหลายคน ทำให้สาวสาวเจ้าถิ่นเกิดความไม่พอใจจึงได้เดินมาหาเรื่องและทะเลาะตบตีกันแต่สาวเจ้าถิ่นสู้พวกตนไม่ไหวจึงได้ไปตามเพื่อนมาเพิ่มประมาณ 20คนแล้วช่วยกันรุมทำร้ายคนตายจนได้รับบาดเจ็บจนสลบไป ซึ่งหลังจากมีเรื่องพวกตนกับคนตายก็ไปแจ้งความที่ สน. จังหวัดนนทบุรี

แต่เรื่องก็เงียบเพราะตำรวจบอกว่าให้พวกตนไปหาหลักฐานจากกล้องวงจรปิดมาเอง ส่วนทางบ้านของผู้ตาย ยายเป็นคนทีพบศพคนแรก เล่าว่าเห็นผู้ตายไม่ตื่นมากินข้าวสักทีเพราะรอจนถึงบ่ายสามแล้วจึงได้เข้าไปเรียก แต่เมือเข้าห้องมาก็เจอกับภาพที่หลานชายนอนอยู่บนทีนอนแล้วมีเลือดออกปากและตูดแถมยังเปลือยช่วงล่าง ยายจึงเป็นคนไปหาผ้ามาปิดเอาไว้แล้วไปเรียกพ่อกับแม่ของคนตายมาดู และจึงทำการแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจดังกล่าว ซึ่งในขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงหาสาเหตุการเสียชีวิตว่าเกิดจากสาเหตุใดกันแน่ 

พระ-สีกา นัวกันติดอยู่กุฎีโดนจับฉี่ติดสารเสพติด

จากข่าวสารที่สำนักข่าวกระปุกดอทคอมรายงานตอนวันที่ 20 พ.ย. พุทธศักราช2562

 

เรื่องของตำรวจบุกจับกุมตัวพระที่มั่วเสพสารเสพติด และก็ในวันที่ไปจับนั้นก็ได้เจอกับหญิงอยู่ในกุฎีของพระด้วยเมื่อมีการสืบสวนกันพบว่า เพศหญิงคนมีชื่อเสียงกล่าวเป็นแฟนของพระ คบค้าสมาคมกันมานานกว่า 3 ปีแล้ว โดยรู้จักกันผ่านทาง facebook แล้วก็ทางหญิงก็ได้มานอนพักพร้อมด้วยเสพยาด้วยกันกับพระที่กุฎีนี้มานานกว่า 2 อาทิตย์แล้ว

เหตุกำเนิดที่วัดในจังหวัดหนองบัวลำภูเขา ด้วยเหตุว่ามีราษฎรไปแจ้งกับฝ่ายปกครองจังหวัดว่า ทุกคืนจะมีวัยรุ่นขับขี่รถเข้าออกวัดทั้งคืน สงสัยว่าจะมีการรวมตัวกันกระทำความผิด เมื่อมาการแจ้งเรื่องทางข้าราชการก็เลยได้เข้ามาตรวจสอบพบว่ามีการกระทำความผิดจริง ก็เลยมีการจับพระศึกรวมทั้งมีการฟ้องกับพระแล้วก็สีกาครั้งอยู่ร่วมกันเพราะเหตุว่ามีการตรวจเจอฉี่สีม่วงทั้งสอง ในความเป็นจริงแล้วปัญหาพระมั่วสีกา เสพยาขยัน มีมานานมากแล้ว

แต่ว่าปราบไม่เคยหมดสักครั้ง บางครั้งบางคราวเป็นข่าวแต่ว่าบางทีก็ไม่เป็นข่าว จริงๆแล้ววัดนับว่าเป็นสถานที่ที่ศักดิ์สิทธิ์ ไม่สมควรไปปฏิบัติไม่ดีในวัด หมดทั้งตัวพระเองที่ยังตัดขาดจากทางโลกมิได้ ยังมีการเล่นอีกทั้งเฟส จีบสาว สุมหัวข้องเกี่ยวกับสารเสพติด แล้วก็ทางหญิงเองก็ปราศจากความหวาดกลัวในบาป สามารถมานอนกับพระในวัดได้ แทนที่จะคิดได้

แต่ว่ากล่าวถึงว่าเนื่องจากว่าความรักก็เลยตกลงใจทำแบบนี้ คำกล่าวอ้างนี้ เป็นคำกล่าวอ้างของคนเห็นแต่ได้ ไม่มีสมอง ปราศจากความกลัวในเวรกรรม พวกเราจะหาทางกำจัดพวกคนทุจริต มารศาสนา พวกนี้ได้เช่นไร ในเมื่อผู้กระทำผิดอีกทั้งชายและก็หญิงพร้อมใจกันสำหรับการทำไม่ดี ถ้าหากว่าไม่มีใครกันแน่มองเห็นแล้วนำเรื่องมาเผย คนพวกนี้ ก็จะยังคงอาศัยวัดเป็นที่กระทำความผิด เป็นที่พักผ่อน และก็อาศัยความใจดีของคนไปทำบุญทำทาน ใส่บาตร เขาพวกเขามีเงินใช้เอามาซื้อยาเสพติดได้อีกด้วย 

ด้วยเหตุดังกล่าวถ้าหากอยากได้ให้สังคมไทย น่าอยู่เราทุกคนจะต้องช่วยเหลือกันดูแล ว่ามีผู้ใดที่ประพฤติน่าสงสัยไหม มีคนไหนกันแน่ที่ราวกับจะกระทำตนเป็นมารศาสนา อาศัยความเชื่อของประชาชนมาทำไม่ดีหรือเปล่า ถ้าพบเจอคนกระทำความผิดแล้วปล่อยไปเฉยๆประเทศและก็พุทธ คงจะเสื่อมถอยเข้าวันใดวันหนึ่ง ถ้าต้องการให้สังคมไทยของพวกเราปราศจากสิ่งเสพติด ถ้าหากมีเค้าเงื่อนควรจะแจ้งตำรวจให้มาตรวจตรา อย่าทำให้ผู้ที่กระทำความผิดทำไม่ดีอีก