มีประกาศจากจุฬา

มีประกาศจากจุฬา ขอความสั่งห้ามไม่ให้นักศึกษาและบุคลากรของมหาลัยไปต่างประเทศจำนวน 9 ประเทศที่เป็นกลุ่มเสี่ยง

 เมื่อวันที่ 27 เดือนมกราคม ปี ค.ศ. 2020 ทางมหาลัยจุฬาได้มีการประกาศอนุญาตให้เจ้าหน้าที่ของมหาวิทยาลัย รวมถึงนักเรียน และนักศึกษาของมหาวิทยาลัย สามารถลาหยุดได้ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด -19 ซึ่งกำลังเป็นปัญหาระดับโลกอยู่ในขณะนี้

โดยทางมหาลัยจะไม่เอาวันหยุดเหล่านี้

มานับเป็นวันลาให้เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่เชื้อไวรัสดังกล่าว แต่ในตอนนี้สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนายังคงรุนแรงขึ้นเรื่อยเรื่อย และมีคนที่ติดเชื้อมากขึ้นซึ่งยังไม่มีแนวโน้มว่าจะสามารถป้องกันการแพร่เชื้อระบาดนี้ได้ ดังนั้นทางมหาวิทยาลัยจึงได้เห็นสมควรว่าเพื่อเป็นการไม่ให้บุคลากรของมหาวิทยาลัยรวมถึงนักศึกษาของมหาวิทยาลัยได้รับเชื้อไวรัสนี้

จึงได้มีประกาศห้ามออกมาเกี่ยวกับการเดินทางไปต่างประเทศของนักเรียน นักศึกษารวมถึงพนักงานขององค์กรมหาวิทยาลัยในช่วงนี้ โดยจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ วันที่ 20 เดือนกุมภาพันธ์ ปี ค.ศ. 2020 ยาวไปจนถึงวันที่ 19 เดือนเมษายนปี ค.ศ. 2020 ซึ่งในระหว่างนี้ห้ามทุกคนในองค์กรรวมถึงนักเรียน

นักศึกษาด้วยเดินทางไปประเทศที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา ตามระยะเวลาที่มีการประกาศเอาไว้ ซึ่งมีการห้ามเดินทางไปประเทศต่อไปนี้  ประเทศเกาหลีใต้ , ประเทศไต้หวัน ,ประเทศจีน, ประเทศฮ่องกง, ประเทศมาเก๊า, ประเทศญี่ปุ่น , ประเทศมาเลเซีย , ประเทศเวียดนาม และประเทศสิงคโปร์

ซึ่งทั้ง 9 ประเทศนี้เป็นประเทศที่มีความเสี่ยงในการติเชื้อไวรัสมาก

เพราะตอนนี้ประเทศดังกล่าวมีผู้ติดเชื้อแล้วเป็นจำนวนมาก รวมถึงมีการแพร่เชื้อไวรัสกันแล้วที่สำคัญมีผู้ที่เสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสชนิดนี้มาแล้วหลายราย ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้คนในองค์กรและนักเรียน นักศึกษาของมหาวิทยาลัยจะติดเชื้อไวรัสดังกล่าว จึงมีการสั่งห้ามเดินทางไปประเทศที่แจ้งมาเหล่านี้ รวมถึงหากใครที่เคยขออนุญาตที่จะเดินทางไปประเทศเหล่านี้ก่อนที่จะมีการเกิดเรื่องของการแพร่ระบาดไวรัสเอาไว้และได้รับการอนุมัติไปแล้ว

ทางมหาวิทยาลัยได้ขอความร่วมมือในการเลือนการเดินทางออกไปก่อน ซึ่งจะสามารถเดินทางไปได้หลังจากที่สิ้นสุดวันประเทศห้าม และหากใครที่มีการทำเรื่องการเดินทางไว้แล้วในการขอเลือนการเดินทางหากมีค่าใช้จ่าย สามารถนำบิลค่าใช้จ่ายมาเบิกกับทางมหาวิทยาลัยได้ตามจริง และหากใครที่ได้รับการติดเชื้อหรือแม้แต่ถูกกักตัวเพื่อหาเชื้อไวรัส

หรือมีการตรวจสอบพบว่าอยู่ในคนที่มีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อทางมหาวิทยาลัย ขอให้บุคคลเหล่านั้นงดเข้าเรียนและเข้ามหาวิทยาลัย เพื่อไปรักษาตัวเองจนกว่าจะหายดี