ทนายตั้ม โพสต์ รู้สึกผิดหวังหลังจากที่โดนตำหนิเรื่องของการติดตามคดีแตงโม

            ทนายตั้ม โพสต์ รู้สึกผิดหวัง  สำหรับ ทนายสิทธา เบี้ยบังเกิด นั้นเป็นอีกหนึ่งคนที่ให้ความสำคัญพยายามที่จะสืบหาสาเหตุการเสียชีวิตของนักแสดงสาวแตงโมนิดา

โดยทนายตั้มนั้นค่อนข้างมีความสนิทสนมกับนักแสดงสาวเป็นพิเศษก่อนที่นักแสดงสาวจะเสียชีวิตเนื่องจากว่านักแสดงสาวนั้นเคยไปทานอาหารกับครอบครัวของทนายตั้มมาก่อนและรู้จักกับครอบครัวของทนายตั้มเป็นอย่างดี  ซึ่งการเสียชีวิตของแตงโมนั้นยังมีข้อสงสัยอีกหลายอย่างทำให้ทนายตั้มนั้นอยากจะเรียกร้องหาความเป็นธรรมให้กับนักแสดงสาว

       อย่างไรก็ตามในช่วงแรกนั้นทนายตั้มได้เข้าหาคุณแม่ของแตงโมเพื่อที่จะให้ความช่วยเหลือเกี่ยวกับเรื่องของการติดตามหาสาเหตุของการเสียชีวิตของแตงโมแต่ภายหลังนั้นก็ถูกคุณแม่ของแตงโมตำหนิเมื่อเข้ามาก้าวก่ายเรื่องของคดีทางที่คุณแม่นั้นไม่ได้มีการร้องขอความช่วยเหลือนอกจากนี้คุณแม่ของแตงโม

ยังได้มีการเขียนจดหมายส่งไปยังสื่อต่างๆยืนยันว่ามีการว่าจ้างทนายความเป็นท่านอื่นและไม่ได้มีการว่าจ้างทนายตั้มให้ดำเนินคดีของแตงโมแต่อย่างใดพร้อมกันนี้ยังมีการเขียนจดหมายมาถึงทนายตั้มดูให้ยุติการติดตามหาความเป็นธรรมให้กับแตงโมเพราะคุณแม่นั้นได้มีการเตรียมว่าจ้างทนายความให้ติดตามคดีดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

        อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าคุณแม่ของแตงโมจะออกมาต่อว่าทนายตั้มแต่ทางด้านทนายตั้มเองนั้นก็พยายามที่จะยังสืบหาข้อเท็จจริงต่อไป

เพราะมองว่าเป็นการทำความจริงให้ปรากฏครั้งสุดท้ายเพื่อตัวแตงโมนั่นเองซึ่งเรื่องนี้พี่ชายของแตงโมซึ่งเป็นพี่ชายคนละพ่อก็ได้ออกมายืนข้างฝั่งทางทนายตั้มยืนยันว่าจะเป็นคนช่วยเหลือทนายตั้มในการออกมาเคลื่อนไหวร้องขอความเป็นธรรมให้กับน้องสาวของตนเอง

         อย่างไรก็ตามได้มีการโพสต์เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับการร่วมมือกันระหว่างทนายสิทธาและพี่ชายของแตงโมเพียงแค่วันเดียวเท่านั้นปรากฏว่าวันรุ่งขึ้นทางพี่ชายของแตงโมก็ประกาศยุติการร้องขอความเป็นธรรมให้กับน้องสาวของตนเองทันทีโดยอ้างว่าไม่อยากมีปัญหากับแม่เพราะว่าแม่นั้นชรามากแล้วซึ่งเรื่องนี้ทำให้ทนายตั้มนั้นต้องออกมาโพสต์ว่าตนเอง

นั้นรู้สึกผิดหวังเป็นอย่างมากทั้งการที่โดนแม่ของแตงโมตำหนิทั้งที่พยายามอย่างเต็มที่ที่จะร้องขอความเป็นธรรมให้กับลูกสาวของคุณแม่ในขณะเดียวกันพี่ชายของแตงโมที่ตอนแรกจะให้ความร่วมมือในการสืบสาวคดีความให้ชัดเจนก็ออกมาเทตนเอง  ทำให้ทนายตั้มถึงกับโพสต์ว่าเลือดย่อมข้นกว่าน้ำของแท้

        อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าทนายตั้มจะไม่ได้รับความร่วมมือจากญาติของแตงโมในการหาความเป็นธรรมในการเสียชีวิตในครั้งนี้แต่ทนายตั้มก็ยืนยันว่าจะยังคงหาความเป็นธรรมให้กับแตงโมจนกว่าจะรู้สาเหตุของการเสียชีวิตในครั้งนี้เพื่อเป็นการช่วยเหลือแตงโมเป็นครั้งสุดท้าย

 

สนับสนุนโดย    มั่งมีหวย

สาวถูกตำรวจล่อซื้อน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า รีดไถเงินแสนบาท 

          สาวถูกตำรวจล่อซื้อน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า  สำหรับบุหรี่ไฟฟ้านั้นนับได้ว่าเป็นสิ่งของผิดกฎหมายที่ทางรัฐบาลของไทยยังไม่ได้มีการอนุมัติให้ขายในประเทศไทยได้

ดังนั้นหากพ่อค้าแม่ค้าคนไหนก็ตามที่นำบุหรี่ไฟฟ้ามาขายก็ถือว่าทำผิดกฎหมายและถ้าเกิดตำรวจทราบเรื่องก็สามารถเข้าจับกุมดำเนินคดีได้ทันทีซึ่งจะต้องมีการเสียค่าปรับหรืออาจจะติดคุกได้ด้วย

      เมื่อวันที่ 18 เดือนกันยายน ปี พ.ศ. 2565 ได้มีหญิงสาวคนหนึ่งได้มีการเข้าร้องเรียนต่อผู้สื่อข่าวว่าเธอนั้นถูกแก๊งตำรวจรีดไถเงินข่มขู่เอาทรัพย์โดยหญิงสาวรายนี้ระบุว่าตัวเธอเองนั้นเป็นคนระยองทำอาชีพขายของผ่านทาง facebook โดยของที่เธอขายในก็คืออุปกรณ์ต่างๆเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้า  

          อย่างไรก็ตามหญิงสาวรายนี้ระบุว่าเธอได้รับการติดต่อจากลูกค้ารายหนึ่งเมื่อวันที่ 5 เดือนกันยายน ปี พ.ศ. 2565 หรือติดต่อขอซื้อน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าและเมื่อเธอนำไปให้กับลูกค้าปรากฏว่าเป็นตำรวจมาแสดงตัวว่าล่อซื้อและเข้าจับกุมเธอในที่สุด

อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ได้พาเธอไปที่สถานีตำรวจแต่มีการเรียกเธอไปพูดคุย โดยบอกว่าจะไม่ดำเนินคดีเอาผิดกับเธอแต่ให้เธอนั้นจ่ายเงินมา 1 แสนบาทแทน ซึ่งหญิงสาวรายนี้ระบุว่าตัวเธอเองนั้นได้บอกกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าไม่มีเงินมากตามที่เจ้าหน้าที่ตำรวจร้องขออย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจยังพยายามข่มขู่และแนะนำให้ไปยืมเงินญาติสุดท้ายหญิงสาวรายนี้จึงได้ตัดสินใจนำเงินสด 40,000 บาทมอบให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไปแลกกับการที่ไม่ต้องถูกดำเนินคดี 

             อย่างไรก็ตามแก๊งตำรวจไม่ได้เพียงแค่เรียกร้องเงินค่าถ่ายเท่านั้นแต่ยังให้ผู้เสียหายบอกรายชื่อคนที่ขายบุหรี่ไฟฟ้าให้กับแก๊งตำรวจเพิ่มอีก 2 รายด้วย

ซึ่งหญิงสาวรายนี้เชื่อว่าแก๊งตำรวจน่าจะมีการไปล่อซื้อแล้วรีดทรัพย์กับคนขายบุหรี่ไฟฟ้าที่ได้รายชื่อไปเช่นเดียวกันซึ่งเธอจำเป็นที่จะต้องให้ข้อมูลไปเพราะไม่อย่างนั้นตำรวจข่มขู่ว่าตัวเธอเองนั้นจะเป็นคนที่เดือดร้อนแทน

        อย่างไรก็ตามหญิงสาวรายนี้ระบุว่าแก๊งตำรวจจังหวัดระยองที่เกาะกลอยนั้นเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ชอบยัดความผิดให้กับประชาชนซึ่งเธอเคยเจอเจ้าหน้าที่ตำรวจจับตรวจฉี่ทั้งที่เธอนั้นไม่ได้เสพสารเสพติดแต่ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจบอกว่าชีวิตของเธอเป็นสีม่วงและเรียกเงินกับเธอเป็นจำนวนเงินถึง 20,000 บาท

ซึ่งไม่ใช่เธอเพียงคนเดียวที่นั้นพูดถูกตำรวจแก๊งเกาะกลอยนี้รีดไถประชาชนในจังหวัดระยองหลายคนก็มักจะถูกรีดไถในลักษณะนี้เช่นเดียวกันเธอจึงต้องการนำเรื่องนี้มาเผยแพร่ให้สื่อมวลชนได้ทราบเพื่อที่จะได้เป็นข่าวและหน่วยงานราชการจะได้เข้ามาดูแลปัญหาที่เกิดขึ้นเพื่อให้ประชาชนทุกคนในจังหวัดระยองได้รับความเป็นธรรม 

               

สนับสนุนโดย    alpha88