เกิดเหตุ กำนันใช้ปืนยิงลูกบ้านเสียชีวิต เหตุทะเลาะกันเรื่องโควิด-19 

          เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจม่วงงามได้รับแจ้งเหตุมีคนถูกยิงเสียชีวิตคาหน้าบ้านพักของตนเองซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 20 เดือนพฤษภาคมปี พ.ศ. 2563   โดยจังหวัดที่เกิดเหตุนั้นคือจังหวัดสงขลา  เมื่อทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากนางวัลยาภรรยาของผู้เสียชีวิตและนายสุมิตรพี่ชายของผู้เสียชีวิตให้คำการเข้าจับกุมผู้ก่อเหตุที่เป็นคนยิงผู้เสียชีวิตนั้น

ก็คือนายณรงค์ชัยซึ่งเขามีตำแหน่งหน้าที่เป็นกำนันที่ตำบลม่วงงามโดยทั้งคู่เล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันเกิดเหตุว่าผู้เสียชีวิตนั้นที่ว่านายเสรีในวันดังกล่าวนั้นนายเสรีนั่งกินเหล้าอยู่กับเพื่อนที่หน้าบ้านเรียนโต๊ะหินซึ่งระหว่างที่นั่งกินเหล้าอยู่นั้นก็พบว่ากำนันณรงค์ชัยได้ขับรถมอเตอร์ไซค์ขับผ่านมาซึ่งที่จริงแล้วกำนันลงใช้ขับรถเลยไป

แล้วแต่ไม่มีการย้อนกลับมาที่หน้าบ้านของนายเสรีอีกครั้งหนึ่งโดยนายณรงค์ชัยได้มีการบวกกับนายเสรีและเพื่อนที่นั่งกินเหล้ากันว่าให้เรียมเลิกกินได้แล้วเพราะว่าใกล้จะครบเคอร์ฟิวแล้วซึ่งนายเสรีซึ่งขณะนั้นกำลังเมาสุราจึงได้มีการต่อว่ากำนันณรงค์ชัยไปโดยลักษณะคำพูดของนายเสรีนั้นเป็นลักษณะของการดูถูกตำแหน่งหน้าที่การงานของกำนันณรงค์ชัย

และที่สำคัญก่อนหน้านั้นเคยมีเรื่องทะเลาะกันมาก่อนเกี่ยวกับการที่นายเสรีเดินทางกลับมาจากต่างจังหวัดทำให้กำนันณรงค์ชัยต้องสั่งให้ตัดตัวอยู่แต่ที่บ้านจนเกิดมีปากเสียงกันขึ้นเพราะนายเสรี ไม่ยอม จนวันนี้นายเสรีได้มาพูดจาดูถูกกำนันณรงค์ชัยอีกจึงทำให้กำนันไม่พอใจใช้อาวุธปืนที่พกติดตัวมากระหน่ำยิงใส่นายเสรีทันทีจนทำให้เสียชีวิตคาที่ส่วนเพื่อนๆที่นั่งกินเหล้ากันอยู่ในจุดที่เกิดเหตุนั้นต่างก็พากันวิ่งหนีลูกปืนไปคนละทิศละทาง

             ส่วนทางด้านกำนันณรงค์ชัยนั้นหลังจากก่อเหตุเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ได้มีการขับรถกลับไปที่บ้านของตนเองและไปอาบน้ำแต่งตัวหลังจากนั้นก็เดินทางไปหาปลัดอำเภอสิงหนครเพื่อให้ปลัดอำเภอนั้นพาเข้ามอบตัวกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยกำนันณรงค์ชัยนั้นได้ให้การปฏิเสธเกี่ยวกับเรื่องของการยิงนายเสรีซึ่งกำลังชัยบอก

แต่เพียงแค่ว่าตนเองนั้นเดินทางไปงานศพของลูกบ้านมาแล้วก็ขับกลับมาที่บ้านแต่ไม่ได้ไปก่อเหตุยิงนายเสรีแต่อย่างใดซึ่งหลังจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้มีการตรวจสอบข้อมูลอีกครั้งหนึ่งและจับกุมผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีให้ได้ ทั้งนี้ต้องมีการตามตัวเพื่อนของนายเสรีมาให้ปากคำว่าสรุปกำนัน ณรงชัย ได้ก่อเหตุยิงนายเสรีย์จริงหรือไม่ 

 

สนับสนุนโดย  sagame

คุณพ่อคุณแม่พึ่งแจ้งวัยรุ่นเตรียมฆ่าเพื่อนแถมขุดหลุมเตรียมฝังศพเรียบร้อย

เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้เองซึ่งก็คือวันที่ 12 เดือนนี้ซึ่งได้มีวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นผู้หญิงอายุประมาณ  13 ปีขึ้น ซึ่งวัยรุ่นกลุ่มนี้นั้นได้สั่งให้มีเด็กหญิงคนหนึ่งมาหาและหลังจากนั้นก็ทำการรุมทำร้ายซึ่งทำร้ายเป็นเวลามากกว่า 4 ชั่วโมงระหว่างที่คนในแก๊งทำร้ายอยู่อีกคนหนึ่งก็ทำการขุดหลุมฝังศพเด็กสาวคนนั้น มีข่าวลือมาว่าจริงๆแล้ว

เด็กสาวคนที่ถูกกระทำทำร้ายนั้นว่ากันว่าเด็กสาวคนนี้ได้แอบคบกับแฟนหนุ่มของคนที่ทำร้ายเธอเป็นคนที่ทำร้ายเธอนั้นเมื่อรู้ว่าโกรธมากเพราะว่าแฟนหนุ่มคนนั้นก็คือแฟนหนุ่มของคนที่ทำร้ายเองซึ่งดังนั้นเธอจึงทำการคิดที่จะชำระแค้นด้วยการที่จะฆ่าหญิงสาวคนนั้นให้ตายซะแต่กลับมีคนแอบถ่ายคลิปไว้ก่อนทำให้เธอจำเป็นที่จะต้องปล่อยเด็กสาวคนนั้นไป

ซึ่งหลังจากนั้นหญิงสาวก็ได้ไปหาพ่อแม่และเล่าเรื่องให้ฟังซึ่งพ่อแม่นั้นก็ได้ไปหาตำรวจแจ้งความจับกลุ่มเด็กวัยรุ่นกลุ่มนั้นซึ่งเมื่อตำรวจขอคำอธิบายเด็กสาวได้บอกว่าเธอนั้นคือเหยื่อของกลุ่มเองซึ่งวันนั้นมีการจัดปาร์ตี้วันเกิดของคนในกลุ่มวัยรุ่นที่ทำร้ายเธอซึ่งเด็กสาวคนนั้นก็ได้ไปร่วมงาน

ซึ่งหลังจากนั้นก็มีแฟนหนุ่มของเจ้าของวันเกิดขึ้นก็คือคนที่ทำร้ายเธออยู่ในงานซึ่งทั้งสองนั้นเป็นเพื่อนกันมาก่อนจากโรงเรียนอื่นทั้งสองจึงคุยกันอย่างสนุกสนานซึ่งหลังจากนั้นคนที่ทำร้ายเธอก็ได้เห็นเขาว่าเธอกำลังคุยกับแฟนของตัวเองอยู่เป็นกรดเป็นอย่างมากหลังจากที่งานวันเกิดเสร็จไประหว่างที่เธอกำลังจะกลับบ้านแล้วบอกว่าให้เธอแต่งตัวดีๆแล้วมาหาเธอที่บ้านของตัวเองด้วยห้ามชวนใครมาด้วยซึ่งหญิงสาวก็ไม่รู้อะไรเลยสักนิดจึงได้เดินทางตามไป

หลังจากแต่งตัวใหม่จนเสร็จซึ่งหลังจากนั้นเมื่อเธอเข้าไปในบ้านเธอพบว่ามีหญิงสาวคนหนึ่งอายุ 14 ปีมามัดขามัดแขนของเธอเอาไว้หลังจากนั้นพวกคนเหล่านั้นก็ได้ทำการทำร้ายทารุณเธอซึ่งการทำร้ายที่โหดที่สุดนั่นก็คือการนำมีดมากรีดที่หลังจากนั้นซึ่งหลังจากทำร้ายเสร็จคนในกลุ่มก็พากันชี้ไปที่หลุมหนึ่งซึ่งอยู่ใกล้ๆกันหลังจากนั้นพวกเขาก็บอกว่าเมื่อเธอเสียชีวิต

พวกเขาจะนำเธอไปฝังศพไว้ในนั้นแต่โชคดีที่แก๊งเหล่านั้นถูกพ่อแม่เรียกไปก่อนดังนั้นถึงไม่มีใครเห็นเธอและเธอก็ใช้โอกาสนี้การวิ่งหนีกลับบ้านแล้วไปฟ้องพ่อแม่ให้ไปบอกกับตำรวจซึ่งหลังจากที่ได้มีการเผยแพร่ออกไปกับการทำร้ายทารุณเด็กสาวกลุ่มวัยรุ่นกลุ่มนั้นก็ถูกแย่งกันอย่างมากมายและตอนนี้ก็ถูกจับกุมเรียบร้อยแล้ว

 

ได้รับการสนับสนุนโดย  สูตร บาคาร่า bk8

ตำรวจ งง ป้าบอกหญิงสาวส่งกระแสจิตให้ป้าเจ็บเท้า

 เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่สิบสองซึ้งตอนนั้นมีหญิงสาวคนหนึ่งที่นอนอยู่ที่บ้านปกติแต่เมื่อถึงเวลาตีหนึ่งอยู่ๆเธอได้ยินเสียงรถ ตำรวจใกล้มากราวกับว่าอยู่ที่หน้าบ้านของเธอนี้เองแต่เพราะเธอง่วงมากจึงไม่สนใจอะไรและนอนหลับต่อแต่อยู่ๆเธอก็ได้ ยินเสียงมีผู้ชายตะโกนแรกเธอจึงลุกจากเตียงไปดูที่หน้าต่าง

และเห็นรถตำรวจอยู่ที่หน้าบานของเธอซึ้งก็มีป้าคนหนึ่งซึ้งก็คือป้าข้างบ้านของเธอเองค่ะ เธองงมากจึงลงไปที่ด้านล้างบ้านและเมื่ออกไปตำรวจบอกว่าป้าข้างบ้านแจ้งความเธอใน ข้อหาที่กวนในตอนกลางคืน ซึ้งหญิงสาวคนนั้นไม่ได้ออกจากบ้านเลยหลังจากเวลาหนึ่งทุ่มดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่เธอจะไป กวนป้าข้างบ้านเธอจึงถามป้าไปว่า กวนยังไง

ซึ้งป้าข้างบ้านก็ตอบว่า หญิงสาวส่งกระแสจิตไปหาป้าที่บ้านและทำให้เธอ เจ็บเท้าซึ้งหลังจากนั้นเธอก็งงเป็นอย่างมากเนื่องจากมันเป็นเรื่องไม่เป็นเรื่องเพราะแค่เท้าเจ็บซึ่งเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้โดย ธรรมชาติไม่เกี่ยวกับว่าเธอไปกวนอะไรทั้งนั้นและนอกจากนั้นเธอก็ไม่ใช่เอเลี่ยนเป็นมนุษย์ธรรมดาไม่สามารถที่จะส่ง กระแสจิตไปหาใครได้

ซึ่งนอกจากนั้นเธอยังบอกอีกว่าเธอไม่ได้ทำอะไรเธอต่างหากที่เป็นคนที่คุณจะแจ้งข้อหากับป้าคนนั้น เนื่องจากป้าคนนั้นมักจะเรียกชื่อของเธอตอนประมาณ 03:00 น.หรือ 04:00 น.และนอกจากนั้นยังชอบทุบบ้านทุบกำแพง ของบ้านตนเองจนเสียงมันมาหาที่บ้านคนอื่นแต่เวลาตักเตือนป้าก็ไม่ฟังเอาแต่เถียงว่าตัวเองไม่ผิด ซึ้งทุกคนก็ไม่ได้ว่าอะไร

และไม่คิดแจ้งตำรวจด้วยซ้ำ ในตอนนั้นหญิงสาวคิดว่าป้าข้างบ้านของเธออาจจะป่วยทางจิตได้และนอกจากนั้นป้ายังบอก ว่าเธอนั้นเป็นมนุษย์ต่างดาวที่มาจากโลกอื่นซึ้งตอนนั้นทั้งหญิงสาวและตำรวจต่างก็งงกับความคิดของคุณป้าเป็นอย่างมากซึ้งหลังจากนั้นทางตำรวจได้พยามบอกแล้วว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ใช้มนุษย์ต่างดาวแต่คุณป้ากลับไม่เชื่อและยังบอกอีกว่า ตำรวจเป็นเอเลี่ยนเหมือนกัน

เรื่องนี้หลังจากที่หลายคนก็ได้เห็นคลิปทุกคนต่างก็งงกับคุณป้าเป็นอย่างมากและหลายคนคิดว่าคุณป้าอาจจะเป็นบ้าค่ะ เรื่องนี้เราก็ไม่อาจจะรู้ว่าป้าคนนี้ทำแบบนี้เพื่อกวนประสาทหญิงสาวเท่านั้นหรือว่าทำเพราะคุณป้าเป็นป่วยทางจิตกันแน่

 

ได้รับการสนับสนุนโดย  bk8 โบนัส 100

สุดอาลัย การสูญเสียที่ยิ่งใหญ่พยาบาลคนไทย

สุดอาลัย การสูญเสียที่ยิ่งใหญ่พยาบาลคนไทยที่ไปรักษาผู้ป่วยอยู่ที่อเมริกา ป่วยติดเชื้อโควิดจนตาย

               มีคนไทยที่ไปใช้ชีวิตในต่างประเทศเป็นจำนวนมากซึ่งแต่ละคนก็มักจะมีอาชีพแตกต่างกันออกไปและหนึ่งในอาชีพที่อยู่ในความเสี่ยงในขณะนี้ก็คืออาชีพหมอและพยาบาลซึ่งที่ประเทศสหรัฐอเมริกาเองก็มีคนไทยที่ไปใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นพร้อมกับครอบครัวโดยเธอประกอบอาชีพเป็นพยาบาลอยู่ในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในนครนิวยอร์กซึ่งที่นี่เป็นจุดที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรน่ารักที่สุดโดยที่มีจำนวนพี่ติดเชื้อแล้วมากกว่า 30,000 คนในขณะเดียวกันมีคนที่ติดเชื้อแล้วเสียชีวิตอีกมากกว่า 15,000 คน สำหรับเรื่องราวที่เราจะพูดกันอยู่ในวันนี้นั่นก็คือการที่ครอบครัวครอบครัวหนึ่งต้องเสียคนที่รักไปนั่น

ก็คือพยาบาลผู้มีจิตใจเมตตาที่คอยช่วยเหลือผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสโคโรนาอยู่ในโรงพยาบาลโดย   เธอชื่อว่าคุณสุภีโดยเธอย้ายมาอยู่ที่นิวยอร์กเป็นเวลาหลายปีแล้วโดยใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัวของเธอที่อเมริกานี้โดยมีอาชีพเป็นพยาบาลในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในนครนิวยอร์กซึ่งตั้งแต่ที่มีการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาเธอก็อุทิศตนเองดูแลคนป่วยที่อยู่ในโรงพยาบาลมาโดยตลอดทำให้ในที่สุดแล้วเธอก็ต้องติดเชื้อไวรัสโคโรน่า

จากคนไข้ที่เธอดูแลรักษาพยาบาลอยู่และเมื่อติดเชื้อก็ทำให้เธอมีอาการป่วยจนในที่สุดเธอก็เสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสโคโรน่าและเรื่องราวนี้ได้มีการแชร์ต่อกันมาในกลุ่มของคนไทยที่ไปใช้ชีวิตอยู่ในอเมริกาเพื่อเป็นการแสดงความเสียใจและเป็นการแสดงความขอบคุณนางฟ้าอีกคนหนึ่งซึ่งเราได้มีการสูญเสียไปอย่างไม่มีวันได้เธอกลับคืนมา

            สำหรับอาชีพหมอและพยาบาลเป็นอาชีพที่มีความเสี่ยงอยู่แล้วในการที่จะติดเชื้อโรคต่างๆหากไม่ดูแลตนเองแต่ในขณะเดียวกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่าก็เป็นอันตรายต่ออาชีพหมอและพยาบาลเป็นอย่างมากถึงแม้ว่าหมอและพยาบาลจะมีการดูแลตนเองมากแค่ไหนแต่ในประเทศสหรัฐอเมริกานั้นเครื่องมือทางการแพทย์ค่อนข้างขาดแคลนที่สำคัญหน้ากากอนามัยหรือแม้แต่เจลล้างมือก็ไม่ค่อยให้มีให้หมอและพยาบาลไว้ค่อยใช้งานเนื่องจากโดยปกติแล้วประเทศสหรัฐอเมริกาไม่เคยประสบปัญหาเกี่ยวกับเรื่องของโรคระบาดมาก่อนจึงไม่มีมาตรการที่ป้องกันเกี่ยวกับโรคระบาด

และไม่รู้ว่าควรจะต้องทำอย่างไรซึ่งต่างจากที่รู้ตัวไว้แล้วว่าอาจจะต้องมีการใส่หน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันถึงจะไม่ติดเชื้อก็สายไปซะแล้วเพราะปัจจุบันหน้ากากอนามัยสำหรับในต่างประเทศนั้นเป็นสิ่งของที่หาได้ยากมากผู้คนส่วนใหญ่แทบจะไม่มีใส่รวมถึงหมอและพยาบาลก็แทบจะไม่มีใช้และจำนวนผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสกรุณาก็มีมากด้วย

เนื่องจากคนส่วนใหญ่ไม่ยอมใส่หน้ากากอนามัยเพราะมั่นใจว่าตนเองจะไม่ติดเชื้อโดยความคิดของคนอเมริกาส่วนใหญ่คิดว่าคนที่ใส่หน้ากากอนามัยคือคนที่ติดเชื้อนั่นเองจึงทำให้เชื้อโรคนี้มีการแพร่ขยายไปเรื่อยๆและไม่สามารถควบคุมได้อยู่ในขณะนี้ และถ้าหากยังเป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆบุคลากรทางการแพทย์ของสหรัฐอเมริกาก็จะเสียชีวิตจากการติดเชื้อลงไปเรื่อยๆเช่นเดียวกัน

 

 

ได้รับการสนับสนุนโดย  bk888

โจนูโว ดูถูกมนุษย์ด้วยกัน

โจนูโว ดูถูกมนุษย์ด้วยกัน คนที่ควรตายไม่ใช่โรคโควิค-19แต่จะตายเพราะดูถูกมนุษย์

ปรากฏว่าวันนี้เรื่องที่มันไม่ควรจะมาเป็นเรื่องก็คือ คุณ โจนูโว อดีตนักร้องดังซึ่งเคยเป็นขวัญใจของวัยรุ่นทั้งหลายที่ได้เคยโด่งดังไปเมื่อ20-25ปีที่แล้ว ซึ่งในช่วงนี้เขาก็ไม่ได้มีผลงานออกมานาน แต่เมื่อ25ปีที่แล้ว  โจนูโว ก็คือขวัญใจหญิงสาวทั่วประเทศที่ทำเอาผู้หญิงทั้งหลายที่ได้เห็น พี่โจนูโวที่ไหนอันเป็นจะต้องกรี๊ดที่นั่น โจนูโวไม่ค่อยโด่งดังในเรื่องของผลงานทางงานเพลงแต่ก็มักจโด่งดังในเรื่องของการแสดงความคิดเห็นและหลายครั้งการที่ได้ไปแสดงความคิดเห็นของ โจนูโว นั้น

มันได้เป็นความเห็นที่แบบที่มันไม่ค่อยดูจะเป็นประชาธิปไตรมันได้เป็นการแสดงความคิดเห็นที่ประชาชนทั้งหลายมองว่ามันได้ดูหมิ่นเหยียดหยามคนจนสังคมมองว่ามันได้เป็นการดูหมิ่นเหยียดหยามความเป็นมนุษย์หรือว่าแม้กระทั่งไปดูถูกคนที่ด้อยโอกาสกว่าในสังคม ล่าสุด คุณ โจนูโว ก็ได้ถูกเปิดเผยในโซเชียลมีเดียว่าได้ โพสในอินสตาแกรม ในเวลาที่คนทั้งประเทศยากลำบากในเวลาที่คนทั้งประเทศกลัวจะตายเพราะโควิดในเวลาที่คนยากจนกลัวจะอดตายกลัวจะไม่มีการทำกิน และได้มี ผู้ใช้อินสตาแกรม คนหนึ่งได้โพสไปยังอินสตาแกรมของ คุณโจนูโว ว่า กลัวเหลือเกินว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโควิส

จะทำให้ทำมาค้าขายไม่ได้มาตรการเยียวยาไม่ทั่วถึงประชาชนเดือดร้อนจะฆ่าตัวตายทั้งหมดด้าน ( คุณโจนูโว ตอบว่า  ตายได้ก็ตายไปเลยเพราะมันเป็นเรื่องตามธรรมชาติเหมือน ทฤษฎี ชาร์สดาร์วิน คนที่ด้อยกว่าก็จะตายไป ) หลังจากนั้นก็ยังมีประชาชนเข้ามาระบายความทุกข์ต่างๆอย่างมากมาย

อยากจะทำมาหากินอยากจะทำมาค้าขาย ( คุณโจนูโวก็ตอบว่า จะไปขายอะไรจะขายตอนนี้มันจะมีคนซื้อมั้ย ไอสันดานคนไทยมันไม่ได้เรื่อง ไปเที่ยวก็ไม่กักตัว ไปดูมวยดื่มเหล้าแก้วเดียวกันไม่มีวินัย จนทำให้ต้องบานปลาย สันดานดีๆแบบนี้ทำเอาคนชั่วกันเป็นแถว ) หลังจากนั้นก็พูดต่อว่า ทุกจุดบนโลกธรรมชาติคัดสรรใครควรอยู่ใครควรตายต้องคิดกันเองว่าใครควรอยู่ใครควรตาย งดขายเหล้ารวยขึ้นมาทั้งทีตอนนั้นราคาไข่แพงก็บ่นแต่พองดขายเหล้าก็รีบไปกักตุนรีบไปซื้อเหล้าเพราะฉะนั้นก็ตำนิคนไทยแบบที่สังคมนั้นได้มองว่าคุณโจนูโวไล่คนไปตาย หลังจากผู้ที่ใช้อินสตาแกรมบอกว่าหากินฝืดเคืยงจังเลยถ้ารัฐบาลเยียวยาไม่ทั่วถึงนั้นจะต้องได้ฆ่าตัวตายเหมือนกันหมดแน่ๆ

 

ได้รับการสนับสนุนโดย  bk8 ดีไหม

พ่อฆ๋าแม่ต่อหน้าลูกวัย  3 ขวบ

           เมื่อวันที่ 12 เดือนพฤษภาคมปีพศ 2563 ช่วงเวลาประมาณ 12:00 นมีชาวบ้านได้มีการแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่ามีผู้ก่อเหตุฆ่ากันตายที่ห้องเช่าแห่งหนึ่งหลังโรงงานในจังหวัดราชบุรีซึ่งน่าจะมีเดินทางไปถึงก็พบว่ามีผู้เสียชีวิต หนึ่งคงเป็นแค่ผู้หญิงและยังมีคู่บาดเจ็บอีก 1 คนจากการกินยาพิษพบว่าอาการสาหัสอีก 1 คน

จึงได้รีบนำตัวผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลหลังจากนั้นจึงได้มีการสอบถามเรื่องราวกับผู้ที่เห็นเหตุการณ์โดยเพื่อนบ้านหลายคนได้ให้การตรงกันว่าหญิงชายทั้งคู่เป็นสามีภรรยากันซึ่งทั้งคู่นั้นมีลูกด้วยกัน 1 คนอายุประมาณ 3 ขวบ

โดยฝ่ายชายชื่อว่านายธนพลและฝ่ายหญิงชื่อว่านางสาวน้องนุชซึ่งทั้งคู่นั้นปกติดูรักใคร่กันดีไม่เคยมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกันมาก่อนแต่ก่อนหน้านี้ประมาณแค่เพียงไม่กี่วันสักประมาณวันที่ 10 เดือนพฤษภาคมเพื่อนบ้านได้เห็นว่าทั้งคู่มีปากเสียงกันโดยได้ยินคร่าวๆว่าทั้งคู่ทะเลาะกันเรื่องที่ฝ่ายหญิงมีการไปโพส Facebook ส่วนตัวระบุสถานะว่าตนเองโสดทำให้ฝ่ายชายรู้สึกไม่พอใจจึงได้เดินมาต่อว่าและมีการทะเลาะกันอย่างรุนแรงเพราะทั้งคู่ยังคงเป็นสามีภรรยา

และยังไม่ได้เลิกลากันฝ่ายชายจึงรู้สึกหวงเพราะฝ่ายหญิงนอกจากระบุสถานะว่าเป็นโสดแล้วยังมีการคุยกับผู้ชายคนอื่นอีกด้วยหลังจากที่มีการทะเลาะกันเกิดขึ้นฝ่ายชายก็เก็บเสื้อผ้าออกจากห้องเช่าพร้อมทั้งนำลูกวัย 3 ขวบออกไปด้วยแต่ผ่านไปแค่เพียงหนึ่งคืนเท่านั้นฝ่ายชายก็กลับมาอยู่กับภรรยาเหมือนเดิมและต่อมาวันที่ 11 เดือนพฤษภาคม

ก็มีการทะเลาะกันอีกครั้งหนึ่งซึ่งเรื่องของการทะเลาะกันก็ยังเป็นเรื่องเดิมโดยครั้งนี้ฝ่ายหญิงได้มีการบอกกับสามีของตนเองว่าได้หมดรักสามีแล้วพร้อมทั้งเธอยังบอกกับเพื่อนบ้านอีกด้วยว่าเธอไม่ได้รักสามีของเธอแล้วซึ่งเพื่อนบ้านคิดว่าเธอน่าจะกำลังอยากจะเลิกกับสามีของตนเองซึ่งหลังจากที่สามีคิดถึงผู้ก่อเหตุได้ยินภรรยาพูด

ดังนั้นก็เกิดการทะเลาะกันอีกครั้งหนึ่งและได้มีการเก็บข้าวของและพาลูกวัย 3 ขวบออกจากบ้านอีกรอบต่อมาวันที่ 12 ช่วงเวลาเที่ยงก็นำลูกกลับมาบ้านเช่าอีกรอบหนึ่งและกลับมาทะเลาะกันอีกครั้งหนึ่งซึ่งเป็นช่วงในเวลาที่เกิดเหตุซึ่งในตอนเกิดเหตุนั้นลูกวัย 3 ขวบก็นั่งอยู่ในที่เกิดเหตุด้วยโดยหลังจากที่ทั้งคู่มีการทะเลาะกันอย่างรุนแรงฝ่ายผู้ชายได้ใช้มีดแทงภรรยาจนเสียชีวิต

หลังจากนั้นตัวฝ่ายสามีเองก็นำยาพิษที่มีสีเขียวมาดื่มเพื่อหวังที่จะฆ่าตัวตายตามภรรยาของตนเมื่อชาวบ้านได้มาเห็นเหตุการณ์จึงได้มีการแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาที่เกิดเหตุดังกล่าวซึ่งชาวบ้านหลายคนต่างก็บอกว่าเหตุการณ์ในครั้งนี้ไม่น่าจะเกิดขึ้นและที่สำคัญนายชนะพลไม่น่าที่จะก่อเหตุต่อหน้าลูกเพราะลูกอายุ 3 ขวบแล้วเขาสามารถรับรู้เรื่องราวได้แล้วและภาพที่พ่อฆ่าแม่จะกลายเป็นภาพที่ฝังใจลูก ไปจนโต

 

ได้รับการสนับสนุนโดย  ทางเข้าbk8

บุ๊กโกะ เข้าช่วยเหลือน้องเปา

  บุ๊กโกะ เข้าช่วยเหลือน้องเปา ที่ถูกพูดเหยียดให้ไปขายปลาร้าเพราะผิวดำ

          จากกรณีที่ก่อนหน้านี้มีเด็กชายวัย 15 ปีคนหนึ่งและมีการโพสต์ Facebook ไลฟ์สดขายของเพื่อหาทุนการศึกษาให้กับตนเองและเป็นเงินช่วยเหลือคนในครอบครัวโดยเด็กชายมีการขายทั้งน้ำพริกและมีการขายทั้งเครื่องสำอางซึ่งในจังหวะหนึ่งที่มีการโพสต์ขายเครื่องสำอางอยู่นั้นเด็กชายวัย 15 ปีหรือที่เรียกกันว่าน้องเปาได้ถูกชาวเน็ตต่างเข้ามาพูดจา

ดูถูกเรื่องของผิวพรรณของน้องเปาที่มีผิวสีดำซึ่งไม่เหมาะกับการขายเครื่องสำอางเป็นอย่างมากโดยชาวเน็ตบางคนบอกให้น้องเปาเปลี่ยนการขายจากเครื่องสำอางไปขายปลาร้าแทนหรือแม้แต่บางคนก็ให้น้องเปาใช้เครื่องสำอางที่ตัวเองมีอยู่ทำตนเองให้ขาวก่อนแล้วค่อยนำมาขายให้กับคนอื่นซึ่งหลายคนที่ได้เห็นคำต่อว่าของชาวเน็ตต่างก็รู้สึกไม่พอใจที่ได้มีการเหยียดและบลูลี่เด็กชายที่ตั้งใจทำมาหากิน 

      ซึ่งในนั้นมีดีเจบุ๊คโกะ  รวมอยู่ด้วยซึ่งได้เห็นคลิปการเหยียดน้องเปาเกี่ยวกับเรื่องของผิวพรรณและการตอบโต้ของน้องเปาโดยที่น้องเปาตอบโต้ชาวเน็ตด้วยถ้อยคำที่สุภาพแม่เหมือนจะไม่รู้สึกโกรธแค้นที่มีคนมาต่อว่าทำให้ดีเจบุ๊คโกะรู้สึกว่าน้องเป็นคนที่มีอัธยาศัยดีและเป็นคนดีดังนั้นดีเจบุ๊คโกะจึงได้นำสินค้าของน้องไปประกาศขายผ่านใน Instagram

โดยให้มีการติดต่อผ่านทางน้องเองโดยตรงซึ่งหลังจากที่ทางดีเจบุ๊คโกะได้มีการช่วยขายของนั้นทำให้สินค้าของน้องเปาขายดีเป็นอย่างมากและมีคนสนใจมาว่าจ้างน้องเปาให้ช่วยรีวิวขายของเป็นจำนวนมากซึ่งน้องเราเองก็ได้ให้ข้อมูลกับทางนักข่าวว่าปัจจุบันนี้มีคิวที่รอให้น้องเปารีวิวสินค้าให้มากถึง 50 กว่าคิวด้วยกันอีกทั้งสินค้าที่น้องปอนำมาขายอยู่ในตอนนี้นั้นก็ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากซึ่งเขาเองต้องขอบคุณดีเจบุ๊คโกะเป็นอย่างมากที่ให้การช่วยเหลือสนับสนุนอีกทั้ง

ยังมีหน่วยงานราชการต่างๆที่มาเสนอให้น้องเปาได้เรียนฟรีรวมถึงยังมีสถาบันเสริมความงามที่บอกว่าหากน้องเปาอายุครบ 18 ปีก็จะมีการศัลยกรรมให้ฟรีทั้งหน้าทั้งนี้ข้อมูลต่างๆที่น้องเปาได้รับมานี้อยู่ระหว่างการคิดให้รอบคอบเสียก่อนว่าจะมีการตกลงกับรายการไหนบ้าง โดยครอบครัวน้องเปานั้นรู้สึกขอบคุณ ทุกคนที่ให้การสนับสนุนน้องเปาและรู้สึกภูมิใจที่น้องเปาเป็นเด็กดีและหาเงินเลี้ยงตนเองได้แล้ว

        สำหรับเรื่องของการเหยียดผิวพรรณของคนนั้น ประเทศไทยไม่น่าที่จะเกิดขึ้นเพราะประเทศไทยไม่ใช่ประเทศที่มีการเหยียดผิวพรรณกันซึ่งในครั้งนี้ถือว่าชาวเน็ตบางคนได้มีการแสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมและไม่น่ารักเป็นอย่างมากที่มีการดูถูกคนและทำให้คนที่ถูกดูถูกนั้นเสียขวัญและกำลังใจได้แต่ยังดีที่น้องเอาไว้ 15 ปีนั้นเป็นเด็กดีและเป็นคนที่มีความคิดในแง่บวกจึงไม่ได้สร้างผลกระทบให้กับน้องมากนัก

 

ได้รับการสนับสนุนโดย  rb88 ดีไหม

คนใจบาปตายไปตกนรกเพราะงัดตู้บริจาคเงินของวัด

          ที่จังหวัดนครปฐมมีการเผยแพร่คลิปเป็นกล้องวงจรปิดของทางวัดที่สามารถจับภาพคนร้ายที่เข้ามาขโมยเงินวัดจากตู้รับบริจาคเงินช่วยเหลือจากชาวบ้านเหตุการณ์ที่มีกลุ่มโจรไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิงที่ทำทีเข้ามาทำบุญไหว้พระกับไหว้พระพุทธรูปภายในบริเวณวัดหลังจากที่ไม่มีใครมองก็มักจะงัดตู้บริจาคเงินของวัดขโมยของมีค่าของวัดนำไปขาย

ซึ่งกลุ่มคนเหล่านี้คือกลุ่มคนที่มีความบาปหนาเป็นอย่างมากซึ่งตายไปพรุ่งนี้จะตกนรกไปเป็นผีเปรตเหตุการณ์ที่จังหวัดถูกขโมยเงินบริจาคเกิดขึ้นบ่อยครั้งอย่างมากก่อนหน้านี้จนมักจะเข้ามาขโมยพระพุทธรูปภายในบริเวณวัดเพื่อนำไปขายแต่ภายหลังพระพุทธรูปส่วนใหญ่สร้างจากหินปูนมีขนาดใหญ่และหนักที่สำคัญไม่ใช่พระพุทธรูปเก่าแก่ที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ

จึงทำให้ขโมยไปขายก็ไม่ได้มีราคาโจรส่วนใหญ่จึงเปลี่ยนวิธีการขโมยข้าวของภายในวัดแทนที่จะเป็นการขโมยพระพุทธรูปก็กลับมาเป็นการขโมยเงินตู้รับบริจาคภายในวัดซึ่งจะเป็นเงินที่ชาวบ้านที่มาทำบุญที่วัดได้มีการหยอดใส่เอาไว้ที่ตู้เพื่อให้พระสงฆ์นำเงินดังกล่าวไปบูรณะซ่อมแซมวัดหรือไปจ่ายเป็นพวกค่าน้ำค่าไฟให้กับวัด

ซึ่งช่วงหลังๆมานี้ไปวัดมักจะถูกขโมยเงินบริจาคนี้จึงจำเป็นต้องมีการติดกล้องวงจรปิดเอาไว้เพื่อติดตามหาตัวขโมยและในเหตุการณ์ครั้งนี้ที่วัดบางช้างใต้จังหวัดนครปฐมก็ถูกเหตุการณ์ที่มีโจรมาขโมยเงินภายในวัดจากตู้รับบริจาคโดยมีการขโมยเงินของวัดไปเมื่อวันที่ 5 เดือนพฤษภาคมปีพศ 2563

หลังจากที่เจ้าอาวาสได้มีการเปิดกล้องวงจรปิดดูก็พบว่าเป็นชายสวมใส่หน้ากากอนามัยปิดบังใบหน้าคำที่คล้ายกับว่าจะมากราบไหว้พระพุทธรูปภายในอุโบสถหลังจากนั้นเมื่อไม่มีใครสังเกตเห็นชายคนดังกล่าวก็มีการขโมยเงินของวัดไปซึ่งทางเจ้าอาวาสและชาวบ้านจึงได้นำคลิปหน้าตาของหัวขโมยมาเผยแพร่ผ่านทางโลกโซเชียล

เพื่อหวังว่าหากใครพอที่จะจำหน้าใช้หัวขโมยคนนั้นได้จะได้เป็นเบาะแสในการแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อนำตัวมาดำเนินคดีและถึงแม้ว่า อาจจะแนะนำตัวคนร้ายมาไม่ได้เพราะคนร้ายมีการปิดบังใบหน้าแต่เชื่อเถอะว่าบทลงโทษนอกจากทางกฎหมายแล้วทางธรรมก็ยังมีบทลงโทษกับคนที่คิดร้ายอย่างนี้

ด้วยเช่นเดียวกันแม้เขาอาจจะไม่ได้รับโทษทางในครั้งนี้ตอนที่ยังมีชีวิตแต่เมื่อใดก็ตามที่เขาเสียชีวิตไปแล้วเขาจะได้เจอโทษจากสิ่งที่เขาทำจริงๆ หรือบางคนอาจจะสำนึกได้ในตอนที่ยังไม่ตายก็ได้เขาบาปเรานั้นมักจะอยู่ในใจของคนที่ทำความผิดอยู่เสมอ

 

สนับสนุนโดย  bk8 ฝากเงิน

ครูสอนภาษา จัดฉากฆ่าตัวตาย

         หากยังจำกันได้เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาได้มีข่าวออกมาเกี่ยวกับเรื่องของครูสอนภาษาชาวเยอรมันคนหนึ่งซึ่งเป็นเพศชายถูกฆาตกรรมด้วยการใช้อาวุธมีดทำร้ายและบริเวณภายในบ้านพักยังมีร่องรอยการรื้อค้นทำลายข้าวของซึ่งคนที่มาพบศพคนแรกนั้นเป็นอดีตแฟนของครูสอนภาษานั่นเอง

และจากการที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่มีการตรวจสอบหาพยานหลักฐานต่างๆทำให้พบว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับครูสอนภาษาชาวเยอรมันนั้นเกิดขึ้นโดยมีการจัดฉากขึ้นมาเองจากครูชาวเยอรมันที่ถูกฆ่าตายนั่นเองซึ่งเมื่อมีการเข้าไปพิสูจน์ลายนิ้วมือยังพื้นที่เกิดเหตุนั้นไม่ว่าจะเป็นลายนิ้วมือตรงมีดที่ก่อเหตุตรง

ที่มีการงัดหน้าต่างหรือแม้แต่ตรงกระเป๋าตกเคสโทรศัพท์มือถือร่วงทุกๆที่ในบ้านพักที่เกิดเหตุนั้นไม่พบร่องรอยของคนอื่นเลยมีแต่ร่องรอยลายนิ้วมือของครูสอนภาษาชาวเยอรมันคนเดียวเท่านั้น

ซึ่งทำให้ทางเจ้าหน้าที่เชื่อว่าสาเหตุการเสียชีวิตของชายเยอรมันคนดังกล่าวนั้นเกิดจากเขาฆ่าตัวเองและจัดฉากว่ามีคนบุกเข้ามาทำร้ายโดยมีการตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกพบว่าตั้งแต่มีการระบาดของไวรัสโคโรน่าทำให้ครูสอนภาษาคนดังกล่าวไม่ได้ไปทำงานจึงไม่มีเงินเดือนเข้ามาเป็นค่าใช้จ่ายก่อนหน้านี้มีการติดต่อไปยังแม่ที่อยู่ประเทศเยอรมนีเพื่อขอเงินมาเป็นค่าใช้จ่ายจำนวน 40,000 บาทแต่ณปัจจุบันแม่ยังไม่สามารถโอนเงินมาให้ได้จึงทำให้ชาวเยอรมันไม่มีเงิน

ที่จะใช้จ่ายในการซื้อหาอาหารมากินและเมื่อแฟนเก่าคือคุณศรีวรรณที่เป็นคนพบศพคนแรกเดินทางมาหาก็ได้มีการมอบเงินให้กับชาวโรมันครูสอนภาษาคนนี้ประมาณ 40 บาทซึ่งเขาได้มีการนำเงินดังกล่าวไปซื้อยาเส้นมาสูบแทนการสูบบุหรี่โดยข้อมูลนี้มีการตรวจพบได้จากกล้องวงจรปิดของร้านค้าและในวันเกิดเหตุก่อนที่จะมีการพบศพครูสอนภาษาชาวเยอรมันชาวบ้านก็ยังเห็นว่าครูคนดังกล่าวยังออกมาทิ้งถังขยะหน้าหมู่บ้านอยู่เลยแสดงให้เห็นว่าตัวเขาเองนั้น

ไม่ค่อยมีเงินใช้เนื่องจากว่าต้องนำเงิน 40 บาทที่ขออดีตภรรยาไปซื้อยาเส้นมาสูบแล้วเมื่อผ่านกระเพาะของผู้เสียชีวิตก็พบว่าในกระเพาะไม่มีอาหารเลยทำให้เห็นได้ว่าตัวครูสอนภาษานี้ไม่มีเงินแม้แต่จะซื้อข้าวกินซึ่งเป็นไปได้ว่าอาจจะทำให้เขาเกิดความเครียดขึ้นมาจึงได้มีการก่อเหตุฆ่าตัวตายขึ้นแต่เป็นการจัดฉากว่าตนเองถูกทำร้ายแทนที่จะเป็นการฆ่าตัวตายธรรมดาเท่านั้นเอง

 

สนับสนุนโดย  bk8 casino

สุดสลดใจพี่วัย 15 ปีลงไปช่วยน้องที่จมน้ำ

สุดสลดใจพี่วัย 15 ปีลงไปช่วยน้องที่จมน้ำทำตนเองเสียชีวิตแต่น้องรอด 

       เหตุการณ์ในครั้งนี้เกิดขึ้น ที่จังหวัดขอนแก่นเมื่อมีการเกิดเหตุการณ์ที่น่าสลดใจเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 7 เดือนพฤษภาคมปี พ.ศ. 2563  เมื่อมีคุณปู่ท่านหนึ่งอายุประมาณ 68 ปีได้พาหลานๆจำนวน 4 คนออกไปหากินด้วยการงมหอยที่ริมแม่น้ำลำคลอง

ซึ่งผู้เป็นปู่เป็นคนงมหาหอยหวานๆทั้ง 4 คนก็เล่นน้ำอยู่ใกล้ๆกันนั่นเองโดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ปู่ของเด็กๆเล่าให้เจ้าหน้าที่ตำรวจฟังว่าคุณปู่ได้ชักชวนหลานๆทั้ง 4 คน  มาช่วยกันงมหอยเพื่อนำไปประกอบอาหารในช่วงตอนเย็นซึ่งผู้เป็นโปรนั้นก็ได้งมหาหอยอยู่แถวๆริมตลิ่งโดยมีหลานๆเล่นน้ำอยู่ไม่ไกลจากคูมากนักห่างกันแค่เพียงประมาณ 50 เมตรเท่านั้นเอง

หลวงปู่มัวแต่งมหาหอยจึงไม่ได้ดูหลานเพราะเห็นว่ามีพี่คนโตอายุ 15 ปีคอยดูแลน้องๆอยู่หลังจากนั้นไม่นานหลานวัย 13 ปีคนหนึ่งก็วิ่งเข้ามาหาปู่เลยบอกว่าพี่สาวคนโตวัย 15 ปีจมน้ำปู่จะได้รีบมาดูและตะโกนให้คนแถวนั้นซึ่งเป็นชาวบ้านที่ออกมาหาปลาด้วยกันมาช่วยกันงมหาร่างของหลานสาววัย 15 ปีโดยใช้เวลาแค่เพียง 10 นาที

ก็พบร่างของหลานสาวอยู่ใต้น้ำจึงนำร่างของหลานสาวขึ้นมาบนบกแล้วช่วยกันปฐมพยาบาลเบื้องต้นด้วยการผายปอดและปั๊มหัวใจแต่เขาไม่สามารถช่วยชีวิตหลานสาวไว้ได้ซึ่งขณะที่มีการช่วยเหลือปฐมพยาบาลนั้นก็ได้มีการโทรแจ้ง 1669 แต่ทางเจ้าหน้าที่ไม่สามารถเดินทางมาทันได้หลานเสียชีวิตไปซะก่อน

         ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้เด็กสาววัย 13 ปีซึ่งเป็นกลุ่มที่อยู่ในจำนวนหลานผู้เสียชีวิตนั้นได้เล่าให้ทั้งปู่และเจ้าหน้าที่ตำรวจฟังว่าพวกตอนทั้ง 4 คนกำลังเล่นน้ำกันอยู่ตรงริมตลิ่งแต่ปรากฏว่าน้องคนเล็กวัย 9 ขวบได้มีการลื่นไถลออกไปแถวกลางแม่น้ำเมื่อพี่วัย 15 ปีเห็นจะได้ลอยคอไปช่วยน้องซึ่งก็สามารถนำน้องมาส่งที่ฝังได้แล้วแต่ระหว่างที่กำลังจะขึ้น

ฝั่งนั้นมีกระแสน้ำไหลมาแล้วพัดร่างของพี่ไปตรงบริเวณที่เป็นร่องน้ำวนทำให้ร่างของพี่ถูกพัดลมหายไปซึ่งพวกเราทั้งสามคนไม่สามารถช่วยเหลือพี่วัย 15 ปีได้เลยจึงทำได้เพียงแค่วิ่งไปตามให้ปู่มาช่วยพี่สาวเท่านั้นแต่ก็ปรากฏว่าน้ำไม่ทันช่วยขึ้นมาได้แต่พี่สาวก็เสียชีวิตไปเสียแล้ว

     ซึ่งในตอนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางมาถึงก็ปรากฏว่าหญิงสาววัย 15 ปีเสียชีวิตแล้วโดยมีผู้เป็นตาและสาวคนอื่นๆยืนรออยู่ข้างๆศพของหญิงสาววัย 15 ปี

 

ขอบคุณผู้ให้การสนับสนุนโดย  bk8 ฟรี เครดิต