ม็อบประชาชนลั่นกินคำแรกไล่ประยุทธ์ออกไป

นอกจากนีทนายอานนท์ยืนยันจะไปให้สุดทาง เพื่อทำการปฏิรูปสถานบันพระมหากษัตริย์แต่จะเริ่มต้นจากกินคำแรกคือไล่นายประยุทธ์ออกไปทนายอานนท์บนเวทีมหาสารคามเวทีต้านเผด็จการ

เมื่อภาคอีสานได้ลั่นกองรบบนเวทีมหาสารคามและแฮชแท็กขอนแก่นพอกันทีรวมกับแนวร่วมนักสึกษา มมส. เพื่อประชาธิปไตยได้จัดเวทีปราศรัยในวันที่4ตุลาคมที่สนามฟ้ามหาวิทยาลัยมหาสารคามเขต ม.ใหม่ อ.กันทรวิชัย จ.มาหสารคาม

ถึงแม้ว่าจะโดนสกัดกั้นทุกวิธีทางทั้งในแง่ของการปิดกั้นเส้นทางเข้าสู่จุดชุมนุมแต่แล้วการชุมนุมก้เกิดขึ้นในที่สุดและเวทีนี้20แกนนำเสื้อแดงภาคอีสานมารวมตัวกันประกาศเจตนาโรมสนับสนุนกระบวนการนักศึกษาในการเคลื่อนไหวครั้งนี้ในไฮไลท์การชุมนุมต้านเผด็จการอีสานลั่นกองรบ

นอกจากนี้ทนายอานนท์นำภาพูดจุดประเด็นปฏิรูปสถานบันพระมหากษัตริย์ได้มาเปิดเผยถึงความเป็นมาแล้วเรื่องราวแฮรี่พอตเตอร์ที่อนุสรณ์ประชาธิปไตยการดันเพดานการอภิปรายพระมหากษัตริย์เป็นครั้งแรกทนายอานนท์นำภาเปิดเผยถึงเบี้ยงหลังว่าเหตุเกิดมาจากนักศึกษาได้มาหาลือและขอให้มีการพูดถึงการปฏิรูปสถานบันพระมหากษัตริย์โดยทนายอานนท์นำภาเป็นหัวหมู่เป็นอาสาหน่วยกล้าคนแรกที่กล้าพูดถึงเรื่องนี้ในที่สาธารณะอย่างเปิดเผย

ดังนั้นจากวันนั้นจนถึงวันนี้เรื่องปฏิรูปสถานบันพระมหากษัตริย์10ข้อเสนอของแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุมจนมาวันนี้แนวร่วมนักศึกษามหาวิทยาลัยมหาสารคามเพื่อประชาธิปไตยรวมไปถึงกลุ่มขอนแก่นพอกันทีและกลุ่มอื่นๆอีกมากมายได้มีความชัดเจนแล้วว่าเรื่องนี้จะต้องดำเนินการให้ชัดเจนเพราะเป็นแกนของปัญหาในสังคมไทย

ถ้าหากว่าไม่ยอมแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ปัญหาโครงสร้างทางการเมืองที่บิดเบี้ยวจะไม่ได้รับการแก้ไขแต่เมื่อได้เห็นมวลชนร่ำร้องเรียกร้องอย่างจะไล่นายประยุทธ์ให้ออกไปในทันทีทันใดกลุ่มผู้ชุมนุมได้มีการปรับกลยุทธกินทีละคำเริ่มจากคำแรกไล่นายประยุทธ์ออกไปพร้อมย้ำอีกด้วยว่าหากไม่ให้กินทีละคำก็จะล้มทั้งโต๊ะในทีเดียวให้คุณนั้นได้เอาไปคิดตัดสิ้นใจดุดเดือดเหลือเกินสำหรับทนายอานนท์

ซึ่งในวันนี้เราไม่ต้องกลัวเรื่องการรัฐประหารเพราะพวกเรารออยู่ในทันทีที่ได้มีการประกาศรัฐประหารฝ่ายผุ้ชุมนุมก็จะประกาศรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนเข้าควบคุมอำนาจการบริหารประเทศในทันทีเช่นเดียวกันไม่ต้องรอให้ฉีดรัฐธรรมนูญเพราะเมื่อมีคนฉีดแล้วเราก็จะประกาศรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนทันทีวันนี้เรื่องราวน่าสนใจอย่ากระพริบตาว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อไป

ดังนั้นทนายอานนท์ถือได้ว่าเป็นทนายน้อยๆจากทางภาคอีสานที่ได้ชวนกันว่าวันที่14ตุลาคมเวลาบ่อยสองโมงบนถนนราชดำเนินที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยพี่น้องจากทั่วทุกสารทิศที่รักในประชาธิปไตยต้องการเห็นโครงสร้างประเทศเห็นสังคมที่ดีกว่านี้จะต้องมาพร้องเพียงกันมาวันนี้ถ้าพร้อมเพียงวันเดียวจบไม่ต้องเหนื่อยนานแต่หากมาน้อยศึกนี้จะต้องยืดเยื้อไปอีกนานวันนี้ประเทศนี้ไม่มีอนาคตให้หลงเหลืออีกต่อไปแล้วเหลืองเพียงอย่างเดียวคือสู้เป็นไทยถอยเป็นทาส

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย  dewabet

วิถีการใช้ชีวิตแบบ New Normal ของประเทศพม่า

        ในตอนนี้เรามักจะได้ยินคำว่า New Normal ทุกที่ที่เรามีการผ่านไปนั่นก็คือการใช้ชีวิตเหมือนเดิมแต่ในรูปแบบใหม่นั่นเองซึ่งการที่เราต้องใช้ชีวิตแบบ New Normal นั่นก็เพราะว่า ชีวิตของคนเรายังต้องมีความเข้าใจเกี่ยวกับการระบาดของไวรัส covid นั่นเอง ทำให้แต่ละคนมันก็ต้องมีการ พลิกแพลงการใช้ชีวิตของตนเองให้ห่างไกลจากคำว่าการที่จะติดเชื้อไวรัสโควิดได้แน่นอนว่าสิ่งที่ทุกคนกำลังทำอยู่ในขณะนี้ทุกทีการใช้ชีวิตแบบ Social distancing ซึ่งเป็นการเว้นระยะห่างกันไม่ว่าจะเป็นที่ทำงาน  ที่บ้าน  สวนสาธารณะหรือแม้แต่เวลาที่เราไปช้อปปิ้งก็ตาม

แต่เราจำเป็นต้องมีระยะห่างระหว่างกันเช่นเวลาที่เราแล้วไปกินอาหารที่ร้านอาหารเรามักจะเห็นว่าร้านอาหารแต่ละร้านในปัจจุบันนั้นจะต้องมีการทำฉากกั้นขึ้นมาเพื่อให้ลูกค้านั้น ไม่นั่งติดกันจนเกินไป แน่นอนเรามักจะเคยเห็นว่าขนาดเพื่อนที่ไปด้วยกันก็ยังต้องนั่งกันคนละมุมคนละโต๊ะว่าต้องใช้วิถีชีวิตแบบ Social และ sensing นั่นเอง

ไหนก็ตามไม่ใช่ประเทศไทยเท่านั้นที่ใช้ชีวิตแบบนี้ทุกๆประเทศก็ต้องใช้ชีวิตแบบนี้เช่นเดียวกัน เพราะเป็นการร่วมมือกันระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน  ประเทศเพื่อนบ้านของเราอย่างประเทศพม่านั้นก็ได้มีการออกมาทำรถเมล์ซึ่งเป็นการจัดการตกแต่งรถเมล์ได้ตรงกับ สถานการณ์ปัจจุบันทีเดียว มันจะบอกว่ารถเมล์ที่ประเทศเมียนมาร์นั้นได้มีการออกแบบออกมาใหม่

โดยเขาจะมีการกำหนดเป็นห้องเหมือนกับห้องในรถไฟเลยทีเดียวซึ่งบนรถเมล์นั้นจะแบ่งออกเป็น 2 ฝั่งและในระหว่างนั้นก็จะมีฉากกั้นเอาไว้ทำเป็นประตูซึ่งในแต่ละช่องนั้นก็จะมีเก้าอี้ไว้ 2 ตัวซึ่งเก้าอี้นั้นก็จะนั่งหันหน้าชนกันดังนั้นผู้ที่มาใช้บริการรถเมล์ก็จะได้เว้นระยะห่างระหว่างกันอย่างแท้จริงไม่จำเป็นที่จะต้องมานั่งเก้าอี้เว้นเก้าอี้เพราะมีประตูกั้นให้เลย

ซึ่งหากเรามองดูแล้วการพัฒนารถเมล์ของประเทศพม่านั้นถือว่าเป็นการกระทำที่สุดยอดเลยทีเดียวเพราะทำให้เราได้รู้ว่านี่คือการใช้ชีวิตในแบบวิถีชีวิตแบบใหม่แล้วเราไม่สามารถที่จะนั่งปะปนรวมกันได้อีกต่อไปเป็นความเสี่ยงมากที่อาจจะติดเชื้อไวรัสโคโรนาและมีการแพร่เชื้อไวรัสโคโรน่าให้กับคนอื่นได้อย่างนั้นต่อไปนี้การใช้ชีวิตของแต่ละคนนั้นก็จะต้องมีการใช้ชีวิตโดยยึดหลับ New Normal ซึ่งถือว่าเป็นสังคมแบบเดิมแต่เปลี่ยนรูปแบบการดำเนินชีวิตใหม่นั่นเอง ซึ่งหลายคนที่ได้เห็รถเมลล์ของทางพม่านี้ต่างก็อยากให้มีการนำทำแบบนี้ที่ประเทศไทยบ้าง

 

ได้รับการสนับบสนุนโดย  dewabet