บุ๊กโกะ เข้าช่วยเหลือน้องเปา

  บุ๊กโกะ เข้าช่วยเหลือน้องเปา ที่ถูกพูดเหยียดให้ไปขายปลาร้าเพราะผิวดำ

          จากกรณีที่ก่อนหน้านี้มีเด็กชายวัย 15 ปีคนหนึ่งและมีการโพสต์ Facebook ไลฟ์สดขายของเพื่อหาทุนการศึกษาให้กับตนเองและเป็นเงินช่วยเหลือคนในครอบครัวโดยเด็กชายมีการขายทั้งน้ำพริกและมีการขายทั้งเครื่องสำอางซึ่งในจังหวะหนึ่งที่มีการโพสต์ขายเครื่องสำอางอยู่นั้นเด็กชายวัย 15 ปีหรือที่เรียกกันว่าน้องเปาได้ถูกชาวเน็ตต่างเข้ามาพูดจา

ดูถูกเรื่องของผิวพรรณของน้องเปาที่มีผิวสีดำซึ่งไม่เหมาะกับการขายเครื่องสำอางเป็นอย่างมากโดยชาวเน็ตบางคนบอกให้น้องเปาเปลี่ยนการขายจากเครื่องสำอางไปขายปลาร้าแทนหรือแม้แต่บางคนก็ให้น้องเปาใช้เครื่องสำอางที่ตัวเองมีอยู่ทำตนเองให้ขาวก่อนแล้วค่อยนำมาขายให้กับคนอื่นซึ่งหลายคนที่ได้เห็นคำต่อว่าของชาวเน็ตต่างก็รู้สึกไม่พอใจที่ได้มีการเหยียดและบลูลี่เด็กชายที่ตั้งใจทำมาหากิน 

      ซึ่งในนั้นมีดีเจบุ๊คโกะ  รวมอยู่ด้วยซึ่งได้เห็นคลิปการเหยียดน้องเปาเกี่ยวกับเรื่องของผิวพรรณและการตอบโต้ของน้องเปาโดยที่น้องเปาตอบโต้ชาวเน็ตด้วยถ้อยคำที่สุภาพแม่เหมือนจะไม่รู้สึกโกรธแค้นที่มีคนมาต่อว่าทำให้ดีเจบุ๊คโกะรู้สึกว่าน้องเป็นคนที่มีอัธยาศัยดีและเป็นคนดีดังนั้นดีเจบุ๊คโกะจึงได้นำสินค้าของน้องไปประกาศขายผ่านใน Instagram

โดยให้มีการติดต่อผ่านทางน้องเองโดยตรงซึ่งหลังจากที่ทางดีเจบุ๊คโกะได้มีการช่วยขายของนั้นทำให้สินค้าของน้องเปาขายดีเป็นอย่างมากและมีคนสนใจมาว่าจ้างน้องเปาให้ช่วยรีวิวขายของเป็นจำนวนมากซึ่งน้องเราเองก็ได้ให้ข้อมูลกับทางนักข่าวว่าปัจจุบันนี้มีคิวที่รอให้น้องเปารีวิวสินค้าให้มากถึง 50 กว่าคิวด้วยกันอีกทั้งสินค้าที่น้องปอนำมาขายอยู่ในตอนนี้นั้นก็ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากซึ่งเขาเองต้องขอบคุณดีเจบุ๊คโกะเป็นอย่างมากที่ให้การช่วยเหลือสนับสนุนอีกทั้ง

ยังมีหน่วยงานราชการต่างๆที่มาเสนอให้น้องเปาได้เรียนฟรีรวมถึงยังมีสถาบันเสริมความงามที่บอกว่าหากน้องเปาอายุครบ 18 ปีก็จะมีการศัลยกรรมให้ฟรีทั้งหน้าทั้งนี้ข้อมูลต่างๆที่น้องเปาได้รับมานี้อยู่ระหว่างการคิดให้รอบคอบเสียก่อนว่าจะมีการตกลงกับรายการไหนบ้าง โดยครอบครัวน้องเปานั้นรู้สึกขอบคุณ ทุกคนที่ให้การสนับสนุนน้องเปาและรู้สึกภูมิใจที่น้องเปาเป็นเด็กดีและหาเงินเลี้ยงตนเองได้แล้ว

        สำหรับเรื่องของการเหยียดผิวพรรณของคนนั้น ประเทศไทยไม่น่าที่จะเกิดขึ้นเพราะประเทศไทยไม่ใช่ประเทศที่มีการเหยียดผิวพรรณกันซึ่งในครั้งนี้ถือว่าชาวเน็ตบางคนได้มีการแสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมและไม่น่ารักเป็นอย่างมากที่มีการดูถูกคนและทำให้คนที่ถูกดูถูกนั้นเสียขวัญและกำลังใจได้แต่ยังดีที่น้องเอาไว้ 15 ปีนั้นเป็นเด็กดีและเป็นคนที่มีความคิดในแง่บวกจึงไม่ได้สร้างผลกระทบให้กับน้องมากนัก

 

ได้รับการสนับสนุนโดย  rb88 ดีไหม

คนใจบาปตายไปตกนรกเพราะงัดตู้บริจาคเงินของวัด

          ที่จังหวัดนครปฐมมีการเผยแพร่คลิปเป็นกล้องวงจรปิดของทางวัดที่สามารถจับภาพคนร้ายที่เข้ามาขโมยเงินวัดจากตู้รับบริจาคเงินช่วยเหลือจากชาวบ้านเหตุการณ์ที่มีกลุ่มโจรไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิงที่ทำทีเข้ามาทำบุญไหว้พระกับไหว้พระพุทธรูปภายในบริเวณวัดหลังจากที่ไม่มีใครมองก็มักจะงัดตู้บริจาคเงินของวัดขโมยของมีค่าของวัดนำไปขาย

ซึ่งกลุ่มคนเหล่านี้คือกลุ่มคนที่มีความบาปหนาเป็นอย่างมากซึ่งตายไปพรุ่งนี้จะตกนรกไปเป็นผีเปรตเหตุการณ์ที่จังหวัดถูกขโมยเงินบริจาคเกิดขึ้นบ่อยครั้งอย่างมากก่อนหน้านี้จนมักจะเข้ามาขโมยพระพุทธรูปภายในบริเวณวัดเพื่อนำไปขายแต่ภายหลังพระพุทธรูปส่วนใหญ่สร้างจากหินปูนมีขนาดใหญ่และหนักที่สำคัญไม่ใช่พระพุทธรูปเก่าแก่ที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ

จึงทำให้ขโมยไปขายก็ไม่ได้มีราคาโจรส่วนใหญ่จึงเปลี่ยนวิธีการขโมยข้าวของภายในวัดแทนที่จะเป็นการขโมยพระพุทธรูปก็กลับมาเป็นการขโมยเงินตู้รับบริจาคภายในวัดซึ่งจะเป็นเงินที่ชาวบ้านที่มาทำบุญที่วัดได้มีการหยอดใส่เอาไว้ที่ตู้เพื่อให้พระสงฆ์นำเงินดังกล่าวไปบูรณะซ่อมแซมวัดหรือไปจ่ายเป็นพวกค่าน้ำค่าไฟให้กับวัด

ซึ่งช่วงหลังๆมานี้ไปวัดมักจะถูกขโมยเงินบริจาคนี้จึงจำเป็นต้องมีการติดกล้องวงจรปิดเอาไว้เพื่อติดตามหาตัวขโมยและในเหตุการณ์ครั้งนี้ที่วัดบางช้างใต้จังหวัดนครปฐมก็ถูกเหตุการณ์ที่มีโจรมาขโมยเงินภายในวัดจากตู้รับบริจาคโดยมีการขโมยเงินของวัดไปเมื่อวันที่ 5 เดือนพฤษภาคมปีพศ 2563

หลังจากที่เจ้าอาวาสได้มีการเปิดกล้องวงจรปิดดูก็พบว่าเป็นชายสวมใส่หน้ากากอนามัยปิดบังใบหน้าคำที่คล้ายกับว่าจะมากราบไหว้พระพุทธรูปภายในอุโบสถหลังจากนั้นเมื่อไม่มีใครสังเกตเห็นชายคนดังกล่าวก็มีการขโมยเงินของวัดไปซึ่งทางเจ้าอาวาสและชาวบ้านจึงได้นำคลิปหน้าตาของหัวขโมยมาเผยแพร่ผ่านทางโลกโซเชียล

เพื่อหวังว่าหากใครพอที่จะจำหน้าใช้หัวขโมยคนนั้นได้จะได้เป็นเบาะแสในการแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อนำตัวมาดำเนินคดีและถึงแม้ว่า อาจจะแนะนำตัวคนร้ายมาไม่ได้เพราะคนร้ายมีการปิดบังใบหน้าแต่เชื่อเถอะว่าบทลงโทษนอกจากทางกฎหมายแล้วทางธรรมก็ยังมีบทลงโทษกับคนที่คิดร้ายอย่างนี้

ด้วยเช่นเดียวกันแม้เขาอาจจะไม่ได้รับโทษทางในครั้งนี้ตอนที่ยังมีชีวิตแต่เมื่อใดก็ตามที่เขาเสียชีวิตไปแล้วเขาจะได้เจอโทษจากสิ่งที่เขาทำจริงๆ หรือบางคนอาจจะสำนึกได้ในตอนที่ยังไม่ตายก็ได้เขาบาปเรานั้นมักจะอยู่ในใจของคนที่ทำความผิดอยู่เสมอ

 

สนับสนุนโดย  bk8 ฝากเงิน

ครูสอนภาษา จัดฉากฆ่าตัวตาย

         หากยังจำกันได้เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาได้มีข่าวออกมาเกี่ยวกับเรื่องของครูสอนภาษาชาวเยอรมันคนหนึ่งซึ่งเป็นเพศชายถูกฆาตกรรมด้วยการใช้อาวุธมีดทำร้ายและบริเวณภายในบ้านพักยังมีร่องรอยการรื้อค้นทำลายข้าวของซึ่งคนที่มาพบศพคนแรกนั้นเป็นอดีตแฟนของครูสอนภาษานั่นเอง

และจากการที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่มีการตรวจสอบหาพยานหลักฐานต่างๆทำให้พบว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับครูสอนภาษาชาวเยอรมันนั้นเกิดขึ้นโดยมีการจัดฉากขึ้นมาเองจากครูชาวเยอรมันที่ถูกฆ่าตายนั่นเองซึ่งเมื่อมีการเข้าไปพิสูจน์ลายนิ้วมือยังพื้นที่เกิดเหตุนั้นไม่ว่าจะเป็นลายนิ้วมือตรงมีดที่ก่อเหตุตรง

ที่มีการงัดหน้าต่างหรือแม้แต่ตรงกระเป๋าตกเคสโทรศัพท์มือถือร่วงทุกๆที่ในบ้านพักที่เกิดเหตุนั้นไม่พบร่องรอยของคนอื่นเลยมีแต่ร่องรอยลายนิ้วมือของครูสอนภาษาชาวเยอรมันคนเดียวเท่านั้น

ซึ่งทำให้ทางเจ้าหน้าที่เชื่อว่าสาเหตุการเสียชีวิตของชายเยอรมันคนดังกล่าวนั้นเกิดจากเขาฆ่าตัวเองและจัดฉากว่ามีคนบุกเข้ามาทำร้ายโดยมีการตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกพบว่าตั้งแต่มีการระบาดของไวรัสโคโรน่าทำให้ครูสอนภาษาคนดังกล่าวไม่ได้ไปทำงานจึงไม่มีเงินเดือนเข้ามาเป็นค่าใช้จ่ายก่อนหน้านี้มีการติดต่อไปยังแม่ที่อยู่ประเทศเยอรมนีเพื่อขอเงินมาเป็นค่าใช้จ่ายจำนวน 40,000 บาทแต่ณปัจจุบันแม่ยังไม่สามารถโอนเงินมาให้ได้จึงทำให้ชาวเยอรมันไม่มีเงิน

ที่จะใช้จ่ายในการซื้อหาอาหารมากินและเมื่อแฟนเก่าคือคุณศรีวรรณที่เป็นคนพบศพคนแรกเดินทางมาหาก็ได้มีการมอบเงินให้กับชาวโรมันครูสอนภาษาคนนี้ประมาณ 40 บาทซึ่งเขาได้มีการนำเงินดังกล่าวไปซื้อยาเส้นมาสูบแทนการสูบบุหรี่โดยข้อมูลนี้มีการตรวจพบได้จากกล้องวงจรปิดของร้านค้าและในวันเกิดเหตุก่อนที่จะมีการพบศพครูสอนภาษาชาวเยอรมันชาวบ้านก็ยังเห็นว่าครูคนดังกล่าวยังออกมาทิ้งถังขยะหน้าหมู่บ้านอยู่เลยแสดงให้เห็นว่าตัวเขาเองนั้น

ไม่ค่อยมีเงินใช้เนื่องจากว่าต้องนำเงิน 40 บาทที่ขออดีตภรรยาไปซื้อยาเส้นมาสูบแล้วเมื่อผ่านกระเพาะของผู้เสียชีวิตก็พบว่าในกระเพาะไม่มีอาหารเลยทำให้เห็นได้ว่าตัวครูสอนภาษานี้ไม่มีเงินแม้แต่จะซื้อข้าวกินซึ่งเป็นไปได้ว่าอาจจะทำให้เขาเกิดความเครียดขึ้นมาจึงได้มีการก่อเหตุฆ่าตัวตายขึ้นแต่เป็นการจัดฉากว่าตนเองถูกทำร้ายแทนที่จะเป็นการฆ่าตัวตายธรรมดาเท่านั้นเอง

 

สนับสนุนโดย  bk8 casino

สุดสลดใจพี่วัย 15 ปีลงไปช่วยน้องที่จมน้ำ

สุดสลดใจพี่วัย 15 ปีลงไปช่วยน้องที่จมน้ำทำตนเองเสียชีวิตแต่น้องรอด 

       เหตุการณ์ในครั้งนี้เกิดขึ้น ที่จังหวัดขอนแก่นเมื่อมีการเกิดเหตุการณ์ที่น่าสลดใจเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 7 เดือนพฤษภาคมปี พ.ศ. 2563  เมื่อมีคุณปู่ท่านหนึ่งอายุประมาณ 68 ปีได้พาหลานๆจำนวน 4 คนออกไปหากินด้วยการงมหอยที่ริมแม่น้ำลำคลอง

ซึ่งผู้เป็นปู่เป็นคนงมหาหอยหวานๆทั้ง 4 คนก็เล่นน้ำอยู่ใกล้ๆกันนั่นเองโดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ปู่ของเด็กๆเล่าให้เจ้าหน้าที่ตำรวจฟังว่าคุณปู่ได้ชักชวนหลานๆทั้ง 4 คน  มาช่วยกันงมหอยเพื่อนำไปประกอบอาหารในช่วงตอนเย็นซึ่งผู้เป็นโปรนั้นก็ได้งมหาหอยอยู่แถวๆริมตลิ่งโดยมีหลานๆเล่นน้ำอยู่ไม่ไกลจากคูมากนักห่างกันแค่เพียงประมาณ 50 เมตรเท่านั้นเอง

หลวงปู่มัวแต่งมหาหอยจึงไม่ได้ดูหลานเพราะเห็นว่ามีพี่คนโตอายุ 15 ปีคอยดูแลน้องๆอยู่หลังจากนั้นไม่นานหลานวัย 13 ปีคนหนึ่งก็วิ่งเข้ามาหาปู่เลยบอกว่าพี่สาวคนโตวัย 15 ปีจมน้ำปู่จะได้รีบมาดูและตะโกนให้คนแถวนั้นซึ่งเป็นชาวบ้านที่ออกมาหาปลาด้วยกันมาช่วยกันงมหาร่างของหลานสาววัย 15 ปีโดยใช้เวลาแค่เพียง 10 นาที

ก็พบร่างของหลานสาวอยู่ใต้น้ำจึงนำร่างของหลานสาวขึ้นมาบนบกแล้วช่วยกันปฐมพยาบาลเบื้องต้นด้วยการผายปอดและปั๊มหัวใจแต่เขาไม่สามารถช่วยชีวิตหลานสาวไว้ได้ซึ่งขณะที่มีการช่วยเหลือปฐมพยาบาลนั้นก็ได้มีการโทรแจ้ง 1669 แต่ทางเจ้าหน้าที่ไม่สามารถเดินทางมาทันได้หลานเสียชีวิตไปซะก่อน

         ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้เด็กสาววัย 13 ปีซึ่งเป็นกลุ่มที่อยู่ในจำนวนหลานผู้เสียชีวิตนั้นได้เล่าให้ทั้งปู่และเจ้าหน้าที่ตำรวจฟังว่าพวกตอนทั้ง 4 คนกำลังเล่นน้ำกันอยู่ตรงริมตลิ่งแต่ปรากฏว่าน้องคนเล็กวัย 9 ขวบได้มีการลื่นไถลออกไปแถวกลางแม่น้ำเมื่อพี่วัย 15 ปีเห็นจะได้ลอยคอไปช่วยน้องซึ่งก็สามารถนำน้องมาส่งที่ฝังได้แล้วแต่ระหว่างที่กำลังจะขึ้น

ฝั่งนั้นมีกระแสน้ำไหลมาแล้วพัดร่างของพี่ไปตรงบริเวณที่เป็นร่องน้ำวนทำให้ร่างของพี่ถูกพัดลมหายไปซึ่งพวกเราทั้งสามคนไม่สามารถช่วยเหลือพี่วัย 15 ปีได้เลยจึงทำได้เพียงแค่วิ่งไปตามให้ปู่มาช่วยพี่สาวเท่านั้นแต่ก็ปรากฏว่าน้ำไม่ทันช่วยขึ้นมาได้แต่พี่สาวก็เสียชีวิตไปเสียแล้ว

     ซึ่งในตอนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางมาถึงก็ปรากฏว่าหญิงสาววัย 15 ปีเสียชีวิตแล้วโดยมีผู้เป็นตาและสาวคนอื่นๆยืนรออยู่ข้างๆศพของหญิงสาววัย 15 ปี

 

ขอบคุณผู้ให้การสนับสนุนโดย  bk8 ฟรี เครดิต

สามีคลั่งยาทำร้ายเมียสาหัส  การแจ้งเหตุผลสาเหตุทำร้ายภรรยาคบชู้ 

            ทางสำนักข่าวอรุณอมรินทร์ได้รับการร้องเรียนมาจากผู้ชมข่าวท่านหนึ่งเกี่ยวกับเรื่องที่น้องสาวของเขาถูกแฟนทำร้ายและจับขังไว้โดยเธอบอกว่า ตัวเธอเองนั้นเป็นพี่สาวผู้หญิงที่ถูกทำร้าย

ซึ่งเธอได้กล่าวกับทางนักข่าวว่าน้องสาวของเธอถูกทำร้ายจนน่วมและถูกจับขังเอาไว้ทำให้นักข่าวต้องลงพื้นที่ไปจังหวัดพระนครศรีอยุธยาเพื่อไปดูความจริงที่เกิดขึ้น ซึ่งเมื่อนักข่าวไปถึงก็ได้พบกับหญิงสาวคนหนึ่งที่ชื่อว่าน้องแนนซึ่งเธออยู่ในสภาพที่ร่างกายเขียวช้ำขอบตาบวมปูด โดยน้องแนนได้ให้สัมภาษณ์กับนักข่าวที่ลงพื้นที่ว่าเธอนั้นถูกแฟนหนุ่มที่ชื่อว่านายมาโนชทำร้าย

ซึ่งเหตุการณ์ที่ถูกทำร้ายในครั้งนี้จากนั้นมาจากว่าเธอนั้นได้ขอเลิกกับนายมาโนชโดยนายมาโนชก็เหมือนจะยินยอมให้เธอเลิกด้วยดีเลยบอกให้เธอนั้นไปเก็บข้าวของออกจากบ้านของเขาแต่เมื่อเธอเดินทางไปถึงที่บ้านของนายมาโนช พร้อมกับลูกสาววัย 5 ขวบของเธอเมื่อเธอเปิดประตูห้องเข้าไปนายมาโนชซึ่งเป็นอดีตสามีก็ทำการกระชากหัวของเธอแล้วดึงเข้าไปในห้อง แล้วมีการตบและเตะเธอ รวมถึงเอาเท้าถีบเธอด้วย ซึ่งในขณะที่มีการถีบเธอนั้นรองเท้าของนายมาโนชก็ได้หลุด

ทำให้นายมาโนชหยิบรองเท้าของตนเองและเอามาตบหน้าน้องแนนอีกทั้งนายมาโนชมองเห็นไม้ที่เตรียมเอาไว้อยู่ข้างมือก็เอาไม้มาทุบตีน้องแนน ทั้งตัว ที่นายมาโนชทำร้ายร่างกายแนนจนพอใจแล้วเห็นว่าแนนมีเลือดออกและมีรอยพกช้ำเต็มไปหมดจึงสั่งให้แนนนั่งอยู่ในห้องและบอกให้แนนรอจนกว่าแผลตามตัวจะหายแล้วค่อยกลับบ้าน แต่เมื่อนายมาโนชไม่อยู่บ้านนานจึงได้ทำการหลบหนีแล้วกลับมาที่บ้านของเธอพร้อมกับเล่าเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นให้ญาติและคนในครอบครัวของเธอฟังจึงทำให้พี่สาวของเธอได้มาแจ้งข่าวกับสำนักข่าวอรุณอมรินทร์ 

ซึ่งน้องแนน เล่าให้ฟังว่าน้องแนนถูกทำร้ายมาบ่อยครั้ง จนทนไม่ไหวจนต้องขอเลิก ซึ่งน้องแนนเองก็บอกว่าสาเหตุที่แฟนทำร้ายนั้นเนื่องจากว่านายมาโนชเกิดความหัวคิดว่าตนเองจะกลับไปมีชู้กับแฟนเก่าซึ่งเธอยืนยันว่าไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด  ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้เธอต้องการที่จะเลิกติดต่อกับนายมาโนชอย่างเด็ดขาดเพราะเธอไม่สามารถทนให้นายมาโนชทำร้ายร่างกายเธอได้อีกต่อไปแล้ว ซึ่งเมื่อนักข่าวเดินทางไปสอบถามแฟนเก่าของน้องแนนก็ได้รับคำตอบว่าตนเองนั้นเลิกกับน้องแนนมานานแล้วและเป็นแค่เพียงเพื่อนกันเท่านั้นนานๆถึงจะไปดูลูกสาวที

ซึ่งนายมาโนชน่าจะคิดไปเองว่าน้องแนนจะนอกใจเลยทำให้น้องแนนถูกนายมาโนชทำร้ายโดยใช้อันเก่าของน้องแนนยืนยันว่าตอนนี้ไม่ได้คิดอะไรกับน้องนานแล้วจริงๆเพราะตนเองก็มีภรรยาใหม่เรียบร้อยแล้ว และสาเหตุที่ครอบครัวของน้องแนนต้องมาร้องเรียนกับนักข่าวนั้นเนื่องจากว่าเคยมีการแจ้งความที่สถานีตำรวจให้ดำเนินการกับนายมาโนชในข้อหาทำร้ายร่างกายแล้วแต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่เคยดำเนินการให้สักครั้งจึงเกรงว่าจะไม่ปลอดภัยจึงได้ร้องขอให้ทางนักข่าวช่วยประสานงานให้

 

 

สนับสนุนโดย  bk8

โกงแม้กระทั่งหม้อชาบู

       ในโลกออนไลน์กำลังมีเรื่องให้ชาวโซเชียลวิพากษ์วิจารณ์กันเป็นอย่างมากเมื่อได้มีร้านอาหารชาบูร้านหนึ่งได้มีการโพสต์ข้อความบอกเล่าถึงเรื่องราวที่เขาถูกลูกค้าโกงเตาปิ้งย่างไฟฟ้าซึ่งเป็นเตาที่ทางร้านต้องใช้ทำมาหากินในการนำไปบริการลูกค้าถึงบ้านด้วยเหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อทางร้านชาบูแห่งหนึ่งได้มีการโพสต์ Facebook ลงเรื่องราวเกี่ยวกับหัวขโมยที่ต้องการเตาไฟฟ้าเอาไปไว้ใช้ส่วนตัว

โดยเขาได้เล่าถึงเหตุการณ์ว่าก่อนหน้านี้เนื่องจากสถานการณ์การระบาดของไวรัสโคโรนาทำให้ร้านชาบูทุกที่ต้องปิดกิจการชั่วคราวลงดังนั้นทางร้านจึงจำเป็นต้องหาช่องทางหาเงินเพิ่มเป็นค่าใช้จ่ายให้กับทางร้านโดยมีวิธีการเปิดบริการจัดส่งชาบูแบบเดลิเวอรี่ซึ่งจะสามารถให้ลูกค้ายืมเตาไปใช้กินที่บ้านได้แต่มีเงื่อนไขว่าลูกค้าจะต้องมีการทักมาทางเพจของ Facebook เท่านั้น

เพื่อมีหลักฐานอ้างอิงว่าลูกค้ามีการยืมเตาจริงแต่มีอยู่มาวันหนึ่งมีหญิงสาวคนหนึ่งโทรเข้ามาที่ร้านโดยขอยืมเตาไฟฟ้าซึ่งเธออ้างว่าไม่สะดวกที่จะเข้าไปยืมผ่านทางเพจทางร้านเองก็เห็นว่าเป็นผู้หญิงติดต่อเข้ามาไม่น่าจะมีปัญหาอะไรพวกเขาจึงให้พนักงานจัดส่งชาบูพร้อมหม้อไฟฟ้าไปให้กับลูกค้าเพื่อหวังเอาใจลูกค้าแต่เมื่อมีการใช้บริการการเรียบร้อยแล้ว

กลับพบว่าทางร้านชาบูไม่สามารถทำการเก็บหม้อมาได้โดยผู้ที่อยู่ในห้องดังกล่าวระบุว่าเขาไม่ได้มีการสั่งให้มีการเอาหม้อมาให้และคนที่สั่งนั้นถ้าเป็นผู้หญิงก็เป็นคนอื่นซึ่งไม่ได้อยู่ในห้องของเขาแล้ว

ดังนั้นเขาไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบกรณีหม้อชาบูหายซึ่งทางร้านเองก็ได้มีการพยายามติดต่อสอบถามและติดตามหาหญิงสาวคนดังกล่าวที่เป็นคนโทรเข้ามาสั่งสบู่ไปแต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้จนอยู่มาวันหนึ่งทางร้านชาบูได้มีการเข้าไปส่อง Facebook ของลูกค้าซึ่งเป็นลูกค้าผู้ชายคนที่ปฏิเสธไม่ได้ยืมหม้อไป

โดยในเพจของลูกค้าผู้ชายคนดังกล่าวได้มีการถ่ายรูปการกินชาบูกับเพื่อนๆโดยมีการถ่ายติดรูปหม้อซึ่งหม้อดังกล่าวนั้นทางร้านจำได้ว่าเป็นหม้อของทางร้านเองดังนั้นเมื่อร้านค้าชาบูเห็นจึงได้มีการไปแจ้งความที่สถานีตำรวจนำมาซึ่งการจับกุมชายคนดังกล่าวโดยเขารับสารภาพว่าทำแบบนี้มาบ่อยซึ่งเมื่อเรื่องราวนี้ได้ถูกเผยแพร่ไปใน Facebook ก็ทำให้ชาวโซเชียลเดือดร้อนเป็นอย่างมาก

โดยมองว่าเป็นการซ้ำเติมคนที่ทำมาหากินซึ่งขณะนี้การทำกิจการอะไรก็ค่อนข้างยากลำบากอยู่แล้วยังต้องมาถูกพวกแก๊งวิชาชีพซ้ำเติมด้วยการอยากได้แม้กระทั่งหม้อที่ร้านค้าก็ต้องใช้เป็นอุปกรณ์ทำมาหากินอีกด้วย ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้น่าจะเป็นบทเรียนให้กับทางร้านชาบูได้มีการพิจารณาและมีมาตรการให้ดีก่อนที่จะมีการปล่อยให้ลูกค้ายืมหม้อชาบูไปกินที่บ้าน

 

 

สนับสนุนโดย  next88 สมัคร