ขอเงินยายข้างบ้านไม่ให้ โจ๋ 16 ใช้มีดปาดคอหญิงชราวัย  78 

        เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเหตุจากลูกชายของคนตายว่าพบศพแม่ของตัวเองนอนตายอยู่ในไร่ข้าวโพดโดยสภาพศพท่อนร่างเปลือยและที่ลำคอถูกปาดเกือบขาดเมื่อเจ้าหน้าที่ได้มายังจุดพบศพและนำศพของหญิงชราไปทำการตรวจสอบจึงพบว่าด้านหลังถูกตีด้วยของแข็งและมีการถูกปาดเข้าที่คอ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการสอบปากคำลูกชายของคนตายที่เป็นคนมาพบศพเป็นคนแรก

โดยลูกชายเล่าว่าแม่จะอยู่ที่บ้านที่ใกล้กับไร่ข้าวโพดแห่งนี้คนเดียว ส่วนตัวลูกชายและภรรยาจะไปอยู่อีกจุดหนึ่งเพื่อเฝ้าไร่ข้าวโพดและสวนพริกที่ปลูกเอาไว้ ทุกวันในตอนเช้าหญิงชราจะต้องมาเก็บผักในสวนเพื่อจะนำเอาไปขายที่ตลาดและในเวลาเจ็ดโมงเช้าของทุกวัน ลูกชายจะมีหน้าที่มารับหญิงชราเอาผักไปขายที่ตลาด ซึ่งก็ทำแบบนี้เป็นประจำทุกวันแต่มาวันนี้ตอนเจ็ดโมงเช้าลูกชายได้มารับหญิงชรา แต่เรียกหาตั้งนานก็ไม่มีเสียงตอบรับ จึงได้เดินตามหาและได้มาพบว่าหญิงชราเสียชีวิตถูกฆ่าปาดคอดังกล่าวแล้ว

  เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บหลังฐานต่างต่างซึ่งจากการส่งชันสูตรศพแล้วพบว่าหญิงชราเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่าแปดชั่วโมง และในเวลาต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็สามารถจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุได้ เป็นชายวัยรุ่นอายุเพียงแค่ 16 ปีเท่านั้นและเพิ่งออกจากคุกมาโดยถูกจับข้อหาลักทรัพย์ ซึ่งคนร้ายได้ให้การรับสารภาพว่าเห็นหญิงชราอยู่ข้างบ้านและอยู่คนเดียว จึงได้เดินมาขอเงินหญิงชราเพื่อจะเอาไปใช้จ่าย แต่หญิงชราไม่ให้ ตนเองจึงได้ลงมือทุบหัวจนหญิงชราล้มแล้วจึงลากมาตรงไร่ข้าวโพดที่อยู่ด้านหลังบ้านแล้วจึงลงมือปาดคอ และได้เงินไปประมาณ หกพันบาท

นำเงินดังกล่าวไปซื้อมือถือและใช้จนเหลือเงินเพียงแค่ หนึ่งพันบาทเท่านั้น ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้สร้างความไม่พอใจให้กับญาติของคนตายเป็นอย่างมาก เรียกร้องให้มีการตั้งโทษประหารชีวิตเพราะถือว่าคนร้ายมีจิตใจที่โหดเหี้ยมมาก อายุแค่ 16 ก็ฆ่าคนตายแล้ว และที่ผ่านมาคนร้ายก็เคยก่อเหตุเอาหินทุบหัวเพื่อนและลักขโมยของเรื่อยมา จึงคิดว่าคนร้ายคงมีนิสัยโหดร้ายโดนสันดาน

หากปล่อยให้ติดคุกแล้วออกมาก็อาจจะกลับมาฆ่าคนตายอีกก็ได้ จึงอยากให้ลงโทษด้วยการประหารเท่านั้น ซึ่งการที่คนร้ายก่อเหตุฆ่าชิงทรัพย์ในครั้งนี้ทำให้คนในหมู่บ้านต่างก็กลัวว่าคนร้ายจะออกมาก่อเหตุซ้ำจึงร้องขอให้มีการประหารด้วยเช่นกัน

 

สนับสนุนโดย  next88