น้องการ์ตูนเปิดใจดราม่าเป็นพยาบาลปลอม

         กำลังเป็นกระแสดราม่าในโลกออนไลน์และตามสื่อต่างๆอยู่ในขณะนี้เกี่ยวกับหญิงสาววัย 24 ปีที่ใช้ชื่อว่าน้องการ์ตูนซึ่งเธอเป็นที่โด่งดังใน Application tiktok เนื่องจากเธอนั้นจะใส่ชุดพยาบาลแล้วออกมาเล่นและมีคนเข้าไปคอมเม้นกันมากมายซึ่งมีคนหนึ่งซึ่งได้เห็นน้องการ์ตูนในชุดพยาบาลแล้วได้ออกมาเปิดเผยว่าแท้ที่จริงแล้วนั้นน้องการ์ตูนไม่ได้เป็นพยาบาลโดยเขามั่นใจว่าน้องการ์ตูนนั้นน่าจะไปยืมชุดของเพื่อนมาใส่

เนื่องจากว่าเธอเคยได้คุยกับน้องการ์ตูนเกี่ยวกับเรื่องของการเป็นพยาบาลโดยสอบถามเรื่องของน้องว่าจบมาจากที่ไหนตกรุ่นอะไรและตอนนี้ทำงานอยู่ที่ไหนซึ่งน้องการ์ตูนนั้นได้ออกมาให้ข้อมูลกับหญิงสาวคนดังกล่าวแต่เนื่องจากข้อมูลที่ให้มานั้นปรากฏว่าเมื่อเช็คไปแล้วไม่ตรงตามที่น้องการ์ตูนให้ข้อมูลไม่ว่าจะเป็นอันทำงานอยู่ที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าซึ่งเมื่อมีการเช็คไปแล้วก็ไม่พบว่าเธอทำงานอยู่ที่นั่นจริงรวมถึงเสื้อที่เธอใส่นั้นก็ไม่ใช่เสื้อของพยาบาลแต่เป็นเสื้อของผู้ช่วยพยาบาลและที่สำคัญเสื้อของผู้ช่วยพยาบาลนั้น

เป็นของอีกโรงพยาบาลหนึ่งที่ไม่ใช่โรงพยาบาลที่เธอบอกว่าเธอทำงานสนใจถามว่าจะจบพยาบาลจากที่ไหนรุ่นอะไรก็ให้ข้อมูลรุ่นมาแต่เมื่อเช็คไปแล้วปรากฏว่าไม่มีรายชื่อของเธอเรียนจบจากรุ่นนี้หลังจากที่มีคนนำข้อมูลนี้มาเผยแพร่ในโลกออนไลน์ทำให้หลายคนนั้นต่างสนใจกันเป็นอย่างมากโดยเฉพาะคนที่เคยติดต่อกับน้องการ์ตูนและลูกน้องตระกูลนั้นหลอกให้คบหาและหลอกเอาเงิน เอาทองไปใช้

ซึ่งแน่นอนว่ามีหนุ่มๆหลายคนถูกน้องประตูหลอกกันเป็นจำนวนมากและล่าสุดนั้นน้องการ์ตูนได้มีการคบกับนายตำรวจคนหนึ่งซึ่งถึงขนาดแต่งงานได้จดทะเบียนกันโดยมีรูปภาพเป็นภาพพรีเวดดิ้งของคนทั้งคู่นั้นโชว์ในโลกออนไลน์อยู่ในขณะนี้ทำให้หลายๆคนมองว่าน้องการ์ตูนอาจจะไปหลอกเงินตำรวจคนนี้ว่าเธอเป็นพยาบาลอย่างไรก็ตามหลังจากที่เรื่องราวของน้องการ์ตูนนั้น

โด่งดังไปทั่วประเทศทำให้เธอไม่ออกมาเปิดใจกับนักข่าวของสำนักข่าวช่อง 3 เธอจะต้องมีการเอาผิดกับคนที่นำเรื่องราวของเธอมาลงโดยให้ข้อมูลแบบผิดๆเลยเธอยืนยันกับความบริสุทธิ์ใจของเธอรวมถึงทั้งเธอบอกว่าเธอมีเอกสารที่ยืนยันได้ว่าตัวเธอนั้นประกอบวิชาชีพพยาบาลจริงๆแต่อย่างไรก็ตามเธอยังไม่สามารถออกมาเคยได้ว่าเธอทำงานที่ไหน

หรือจบจากที่ไหนอย่างไรเธอจะขอดำเนินคดีตามกฎหมายกับคนที่ออกมาเปิดเผยเรื่องราวส่วนตัวของเธอซะก่อนอีกทั้งเธอยังมีการโพสต์คลิปบอกว่าคนในโลกออนไลน์ว่าชอบมาจับผิดเธอซึ่งหลายคนจำได้ว่าเธอนั้นเป็นอาชีพหมอนวดดังนั้นคงต้องมารอดูกันว่าจริงๆแล้วน้องการ์ตูนนั้นมีอาชีพหมอนวดจริงหรือไม่หรือจริงๆแล้วเธอเป็นพยาบาลแต่มีรับจ๊อบเสริมเป็นหมอนวดนั่นเอง

 

สนับสนุนโดย  bk8

ประกาศหยุดแชร์รูปที่ระบุว่าเป็นย่าโม

ประกาศหยุดแชร์รูปที่ระบุว่าเป็นย่าโม เพราะว่าไม่ใช่รูปนั้นคือ ท้าววรจันทร์ 

      เมื่อประมาณ วันที่ 3 เดือนมิถุนายน ปี พ.ศ.2563  ได้มีผู้ใช้ Facebookคนหนึ่งได้มีการทดภาพลงบน Facebook  ส่วนตัวพร้อมทั้งมีการโพสต์รูปผู้หญิงสูงอายุแต่งชุดคล้ายคนโบราณและมีการกำกับใต้ภาพดังกล่าวว่าเป็นบุคคลในประวัติศาสตร์อีกทั้งยังบอกว่าเป็นบุญที่ได้เห็นโดยระบุว่ารูปหญิงโบราณคนนั้นคือลูกของย่าโมตัวจริงสมัยที่ยังมีชีวิตอยู่

ซึ่งมีหลายคนที่หลงเชื่อและมีการแชร์ภาพหญิงในภาพที่อ้างว่าเป็นรูปของย่าโมกันเป็นจำนวนมากจนเป็นประเด็นและกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์ทั้งนี้หลังจากที่วันที่ 5 มิถุนายนปีพศ2563 ได้มี Facebook ของทางโบราณมาได้ออกมาชี้แจงเกี่ยวกับรูปภาพดังกล่าวว่าได้มีการตรวจสอบข้อมูลมาแล้วรูปภาพที่กำลังมีการแชร์ด้วยความเข้าใจผิดว่าเป็นรูปภาพของย่าโมนั้นแท้ที่จริงแล้วไม่ใช่ลูกของย่าโม

ซึ่งบุคคลในรูปภาพนั้นมีอยู่จริงแต่บุคคลในรูปภาพนั้นคือท้าววรจันทร์โดยมีการนำรูปของท้าววรจันทร์ที่ถ่ายอีกรูปหนึ่งเอามาเปรียบเทียบให้ดูและยังได้มีการระบุลงในเพจ Facebook ของตนเองด้วยว่าขอให้ทุกคนที่กำลังจะแชร์รูปของย่าโมที่เป็นรูปตอนนี้โดยของดให้มีการหยุดแชร์และยังมีการอธิบายเพิ่มเติมด้วยว่าในสมัยโบราณนั้น

ผู้คนส่วนใหญ่ยังไม่ค่อยรู้จักกล้องกันมากนักดังนั้นคนมักจะไม่ถ่ายรูปเพราะมีความรู้สึกกลัวเกี่ยวกับการถ่ายรูปและกล้องที่เอามาถ่ายในครั้งแรกถูกนำมาถ่ายด้วยบาทหลวงชาวฝรั่งเศสนิกายคาทอลิกนั่นก็คือพระสังฆราชปาเลอกัวโดยมีการนำกล้องมาถ่ายรูปครั้งแรกในสมัยรัชกาลที่ 3 ซึ่งตรงกับพุทธศักราช 2388

แต่ว่าข้อมูลของย่าโมหรือท้าวสุรนารีที่เป็นบุคคลทางประวัติศาสตร์สำคัญของจังหวัดนครราชสีมานั้นท่านเกิดในสมัยกรุงธนบุรีซึ่งปีพศ. เกิดของท่านนั้นคือผช 2314 ดังนั้นจึงยังเป็นช่วงที่กล้องถ่ายรูปยังไม่มีการเข้ามาในประเทศไทยอย่างแน่นอนและที่สำคัญท้าวสุรนารีนั้นได้เสียชีวิตลงช่วงประมาณปีพศ 2395

ซึ่งถ้าหากดูจากประวัติกล้องถ่ายรูปที่เข้ามาแล้วพึ่งเข้ามาได้ไม่นานแน่นอนว่าหญิงไทยสมัยโบราณนั้นจะยังไม่มีการนิยมการถ่าย เพราะคนสมัยโบราณมักมีความกลัวว่าหากถ่ายรูปไปแล้วอายุจะไม่ยืนดังนั้นไม่ว่าจะเป็นการถ่ายรูปหรือแม้แต่การวาดรูปจะไม่ค่อยมีคนนิยมกันมากนักเพราะกลัวจะอายุสั้นและกลัวว่าหากมีการถ่ายรูปไปแล้วจะมีคนนำรูปถ่ายนั้น

ไปทำคุณไสยซึ่งถึงแม้ว่ากล้องถ่ายรูปจะเข้ามาในประเทศไทยครั้งแรกในสมัยรัชกาลที่ 3 แต่คนที่ถ่ายรูปคนแรกของประเทศไทยนั้นคือพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 4 หลังจากนั้นกล้องถ่ายรูปจึงเป็นที่นิยมสำหรับหมู่บุคคลชั้นสูงเรื่อยมา

 

สนับสนุนโดย  bk8

สาววัย 40 ปีหายตัวปริศนา ไปสองเดือนตามหายังไม่พบตัว

มีเหตุการณ์ผู้หญิงคนนึงหาตัวออกจากห้องเช่าซึ่งเป็นการหายตัวปิดสนาโดยเธอหายตัวออกจากห้องเช่านั้นมานานเกิน 2 เดือนแล้วไม่มีใครที่จะสามารถติดต่อเธอได้เลย ผู้หญิงคนนี้ชื่อว่าคุณน้ำฝน  นามสกุลอินทร์แป้น โดยคุณน้ำฝนนี้ทำงานเป็นพนักงานขายของอยู่ในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งซึ่งห้างสรรพสินค้าแห่งนั้นอยู่บริเวณแถวรามคำแหง เธอจึงได้มีการเช่าห้องเช่าอยู่ในซอยแถวรามคำแหงนั่นเอง

สิ่งที่ญาติของคุณน้ำฝนสงสัยคุณน้ำฝนหายตัวไปนานเกินครึ่งเดือนแล้วแต่สามีของคุณน้ำฝนนั้นเพิ่งไปทำการแจ้งความที่สถานีตำรวจ ว่าคุณน้ำฝนนั้นหายตัวออกไปจากห้องเช่า ซึ่งเบื้องต้นนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบมาว่าห้องเช่าที่คุณน้องฝนอยู่นั้นคุณน้องฝนอยู่กับแฟนหนุ่มของเขาซึ่งตลอดระยะเวลาที่อยู่ด้วยกันนั้นคุณน้องฝนและแฟนหนุ่มมักจะทะเลาะเบาะแว้งกันอยู่เป็นประจำโดยอพาร์ทเม้นท์ที่คุณน้องฝนและแฟนหนุ่มเช่านั้นอยู่ในซอยรามคำแหง 39 และห้องที่คุณน้ำฝนเช่าอยู่นั้นจะอยู่ที่ชั้น 3 ซึ่งทางเจ้าของหอพักได้เล่าให้ฟังว่าคุณน้ำฝนและแฟนหนุ่มนั้น

อยู่ที่หอพักดังกล่าวมานานแล้วแต่ก็ทะเลาะเบาะแว้งกันเป็นประจำจะสังเกตเห็นว่าคุณน้องฝนหายออกจากห้องเช่าไม่เคยเห็นเดินบริเวณหน้าห้องเช่าเลยมาเป็นระยะเวลานานแล้วซึ่งน่าจะหายตั้งแต่ประมาณเดือนมีนาคมแล้วแต่ก็ไม่เห็นแฟนของคุณน้ำฝนจะพูดว่าอะไรซึ่งหลังจากที่คุณน้ำฝนหายตัวไปประมาณครึ่งเดือนบ้านของคุณน้องฝนจึงมาย้ายออกจากห้องเช่าดังกล่าว ส่วนทางด้านย่อยของคุณน้ำฝนนั้นบอกว่าคุณฝนกับแฟนหนุ่มของเขานั้นคบหากันมานาน 25 ปีแล้วซึ่งทั้งคู่นั้นมีลูกด้วยกันอยู่ 3 คนโดยคุณน้องฝนนั้นมาทำงานอยู่ในกรุงเทพฯกับแฟนทราบเรื่องมาจากญาติอีกคนนึง

ซึ่งทำงานอยู่ในกรุงเทพฯด้วยกันว่าไม่สามารถติดต่อคุณน้ำฝนได้ทุกคนก็เริ่มเป็นห่วงจึงได้พยายามตามหาไปตามสถานที่ต่างๆที่คิดว่าคุณน้ำฝนจะไปแต่ก็ไม่พบตัว จึงได้พากันไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ช่วยกันตามหา เนื่องจากว่าเกิดการระบาดของไวรัสโคโรนาทางญาติจึงไม่สามารถออกตามหาได้เพราะต้องเดินทางกลับบ้านที่ต่างจังหวัดในขณะเดียวกันลูกของคุณน้ำฝนนั้นก็ยังรอแม่กลับมา

ซึ่งทุกวันนี้ลูกๆของคุณน้ำฝนก็ยังถามหาแม่อยู่ว่าแม่หายไปไหน อย่างไรก็ตามทางญาติเองทุกวันนี้ก็ยังตามหาตัวของคุณน้ำฝนอยู่เพื่อหวังจะให้คุณน้ำฝนกลับมาอยู่บ้านร่วมกันถึงแม้ว่าตอนนี้จะยังไม่สามารถติดต่อและไม่รู้ว่าคุณหายไปไหนก็ตามซึ่งทางญาติบอกว่าเคยสอบถามสามีของคุณน้ำฝนแล้วสามีของคุณน้องฝนก็ได้แต่บอกว่าหนหายตัวไปเมื่อประมาณวันที่ 16 มีนาคมแต่ก็ไม่รู้ว่าหายไปไหนซึ่งสามีของคุณน้ำฝนนั้นพูดจาวกวนในตอนนี้ทางญาติๆเองก็หวังเพียงให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยกันตามหาให้

 

ได้รับการสนับสนุนโดย  bk8

สามีคลั่งยาทำร้ายเมียสาหัส  การแจ้งเหตุผลสาเหตุทำร้ายภรรยาคบชู้ 

            ทางสำนักข่าวอรุณอมรินทร์ได้รับการร้องเรียนมาจากผู้ชมข่าวท่านหนึ่งเกี่ยวกับเรื่องที่น้องสาวของเขาถูกแฟนทำร้ายและจับขังไว้โดยเธอบอกว่า ตัวเธอเองนั้นเป็นพี่สาวผู้หญิงที่ถูกทำร้าย

ซึ่งเธอได้กล่าวกับทางนักข่าวว่าน้องสาวของเธอถูกทำร้ายจนน่วมและถูกจับขังเอาไว้ทำให้นักข่าวต้องลงพื้นที่ไปจังหวัดพระนครศรีอยุธยาเพื่อไปดูความจริงที่เกิดขึ้น ซึ่งเมื่อนักข่าวไปถึงก็ได้พบกับหญิงสาวคนหนึ่งที่ชื่อว่าน้องแนนซึ่งเธออยู่ในสภาพที่ร่างกายเขียวช้ำขอบตาบวมปูด โดยน้องแนนได้ให้สัมภาษณ์กับนักข่าวที่ลงพื้นที่ว่าเธอนั้นถูกแฟนหนุ่มที่ชื่อว่านายมาโนชทำร้าย

ซึ่งเหตุการณ์ที่ถูกทำร้ายในครั้งนี้จากนั้นมาจากว่าเธอนั้นได้ขอเลิกกับนายมาโนชโดยนายมาโนชก็เหมือนจะยินยอมให้เธอเลิกด้วยดีเลยบอกให้เธอนั้นไปเก็บข้าวของออกจากบ้านของเขาแต่เมื่อเธอเดินทางไปถึงที่บ้านของนายมาโนช พร้อมกับลูกสาววัย 5 ขวบของเธอเมื่อเธอเปิดประตูห้องเข้าไปนายมาโนชซึ่งเป็นอดีตสามีก็ทำการกระชากหัวของเธอแล้วดึงเข้าไปในห้อง แล้วมีการตบและเตะเธอ รวมถึงเอาเท้าถีบเธอด้วย ซึ่งในขณะที่มีการถีบเธอนั้นรองเท้าของนายมาโนชก็ได้หลุด

ทำให้นายมาโนชหยิบรองเท้าของตนเองและเอามาตบหน้าน้องแนนอีกทั้งนายมาโนชมองเห็นไม้ที่เตรียมเอาไว้อยู่ข้างมือก็เอาไม้มาทุบตีน้องแนน ทั้งตัว ที่นายมาโนชทำร้ายร่างกายแนนจนพอใจแล้วเห็นว่าแนนมีเลือดออกและมีรอยพกช้ำเต็มไปหมดจึงสั่งให้แนนนั่งอยู่ในห้องและบอกให้แนนรอจนกว่าแผลตามตัวจะหายแล้วค่อยกลับบ้าน แต่เมื่อนายมาโนชไม่อยู่บ้านนานจึงได้ทำการหลบหนีแล้วกลับมาที่บ้านของเธอพร้อมกับเล่าเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นให้ญาติและคนในครอบครัวของเธอฟังจึงทำให้พี่สาวของเธอได้มาแจ้งข่าวกับสำนักข่าวอรุณอมรินทร์ 

ซึ่งน้องแนน เล่าให้ฟังว่าน้องแนนถูกทำร้ายมาบ่อยครั้ง จนทนไม่ไหวจนต้องขอเลิก ซึ่งน้องแนนเองก็บอกว่าสาเหตุที่แฟนทำร้ายนั้นเนื่องจากว่านายมาโนชเกิดความหัวคิดว่าตนเองจะกลับไปมีชู้กับแฟนเก่าซึ่งเธอยืนยันว่าไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด  ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้เธอต้องการที่จะเลิกติดต่อกับนายมาโนชอย่างเด็ดขาดเพราะเธอไม่สามารถทนให้นายมาโนชทำร้ายร่างกายเธอได้อีกต่อไปแล้ว ซึ่งเมื่อนักข่าวเดินทางไปสอบถามแฟนเก่าของน้องแนนก็ได้รับคำตอบว่าตนเองนั้นเลิกกับน้องแนนมานานแล้วและเป็นแค่เพียงเพื่อนกันเท่านั้นนานๆถึงจะไปดูลูกสาวที

ซึ่งนายมาโนชน่าจะคิดไปเองว่าน้องแนนจะนอกใจเลยทำให้น้องแนนถูกนายมาโนชทำร้ายโดยใช้อันเก่าของน้องแนนยืนยันว่าตอนนี้ไม่ได้คิดอะไรกับน้องนานแล้วจริงๆเพราะตนเองก็มีภรรยาใหม่เรียบร้อยแล้ว และสาเหตุที่ครอบครัวของน้องแนนต้องมาร้องเรียนกับนักข่าวนั้นเนื่องจากว่าเคยมีการแจ้งความที่สถานีตำรวจให้ดำเนินการกับนายมาโนชในข้อหาทำร้ายร่างกายแล้วแต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่เคยดำเนินการให้สักครั้งจึงเกรงว่าจะไม่ปลอดภัยจึงได้ร้องขอให้ทางนักข่าวช่วยประสานงานให้

 

 

สนับสนุนโดย  bk8

สาเหตุที่ทำให้ลำปางปลอดเชื้อโควิด 19 

ก่อนอื่นต้องบอกว่าทำไมเราต้องพูดถึงเรื่องของลำปางก็เพราะว่าในจังหวัดลำปางเป็นหนึ่งในไม่กี่จังหวัดของประเทศไทยเรานี้ซึ่งจากข้อมูลที่มีว่า 13 จังหวัดนั้น ที่มีการปลอดจากโลกแล้วจังหวัดลำปางก็เป็นจังหวัดใหญ่ ถือว่าค่อนข้างเก่งนะในการที่ทำให้จังหวัดของท่านนั้นเป็นจังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อว่าเป็นศูนย์ 

โดยเราจะย้อนไปดูว่าจังหวัดในภาคเหนือถือว่าเป็นจังหวัดใหญ่และจังหวัดลำปางก็ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดจังหวัดหนึ่งในประเทศไทย โดยมีข้อมูลพื้นฐานดังต่อไปนี้ เนื้อที่ประมาณ 7,833,726 ไร่แต่มีประชากรไม่มากเท่าไหร่นะ เท่ากับว่าความบางของประชากรนั้นบาง โดยประชากรมีเพียงแค่ 738,316 คนข้อมูลนี้จากเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งอาณาเขตทางเหนือติดต่อกับเชียงรายทางทิศใต้ก็ติดต่อกับตากทางทิศตะวันออกติดต่อกับจังหวัดแพร่

 และตะวันออกเฉียงเหนือติดต่อกับจังหวัดพะเยา ทิศตะวันออกเฉียงใต้ติดต่อกับสุโขทัย ส่วนทางด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือก็ไปติดต่อกับ จังหวัดเชียงใหม่และก็จังหวัดลำพูน เรื่องจะเห็นได้ว่ารายล้อมไปด้วยผู้ที่ติดเชื้อโควิก ที่มีค่อนข้างเยอะพอสมควรและมีจังหวัดที่น่าชมจังหวัดก็คือจังหวัดน่าน คือถ้าเลยแพ้ออกไปนั่นก็คือหน้าและนั่นก็คือและนั่นคือจังหวัดใหญ่ ที่นั่นก็ยังไม่มีผู้ป่วย ทำให้ไม่มียอดผู้ป่วยหรือญาติผู้ป่วยนั้นเป็นศูนย์นั่นเอง เพลงเราคงต้องมาชื่นชมกัน 

จะเห็นได้ว่าลำปางนั้นคือพื้นที่ใกล้เคียงกลับเชียงใหม่ที่ติดโรคไปแล้ว 30 คน ซึ่งมีลำพูนปิดไปแล้ว 2 คน แม่ฮ่องสอน 5 และตาก 2 สุโขทัย 3และแพร่ 1พะเยาอีก 2 ซึ่งจะเห็นได้ว่าลำปางนั้นไม่พบผู้ติดเชื้อดังนั้นมีความสงสัยว่าลำปางเขามีวิธีการจัดการอย่างไรกัน ซึ่งมีการสงสัยว่าท่านผู้ว่าราชการจังหวัดนั้นเขามีการเตรียมตัวในการรับมือเกี่ยวกับเชื้อไวรัสชนิดนี้อย่างไร ดังนั้นเราได้คำตอบว่าเขาได้มีการเริ่มรับมือตั้งแต่ที่อู่ฮั่นนั้นมีการปิดเมือง

 ซึ่งเขานั้นได้มีการวางแผนมาตั้งแต่อู่ฮั่นของจีนนั้นได้มีการปิดเมืองซึ่งอู่ฮั่นนั้นมีการปิดเมืองตั้งแต่23 มกราคมตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาหลังจากนั้น 24 วันก็ได้มีผู้ติดเชื้อตามมาซึ่งหลังจากนั้นพอรู้ว่าอั้นเป็นเมืองทางผู้ว่าราชการจะได้มีมาตรการในการจัดการเพื่อเป็นการจัดการรับเชื้อไวรัสซึ่งเขาได้มีการเรียกประชุมในวันรุ่งขึ้นของการปิดเมืองของอู่ฮั่นในทันที

โดยประกาศเรียกทุกฝ่ายในจังหวัดนั้นเข้ารับการประชุมร่วมกันโดยการนำข้อมูลของอู่ฮั่นไปบันทึกและวิเคราะห์ในรูปแบบต่างๆโดยมีการหาสาเหตุของการแพร่ระบาดหาแนวทางรับมือกับไวรัสและมีการศึกษาถึงธรรมชาติของไวรัสโคโรน่าว่ามันมีลักษณะอย่างไรซึ่งพูดง่ายๆว่าเราได้เตรียมตัวตั้งแต่รู้เรื่องจึงทำให้เขาพัฒนาและรับมือกับเชื้อโรคเหล่านี้ได้เป็นอย่างดีจึงทำให้ทั้งจังหวัดของเขาปลอดเชื้อมาจนถึงทุกวันนี้นั้นเอง

 

สนับสนุนโดยเว็บ  bk8