โรงเรียนอนุบาลจีน โดนตรวจสอบ หลังพบอาหารกลางวันเด็ก เน่าเสีย-หนอนไต่ยั้วเยี้ย

 

         โรงเรียนอนุบาลจีน   ปัญหาเรื่องอาหารกลางวัน ของเด็กนักเรียนนั้นเราพบเห็นกันอยู่เป็นประจำซึ่งเรามักจะพบว่าอาหารกลางวันของเด็กนักเรียนมีน้อยจนเกินไป

หรืออาหารกลางวันไม่มีเนื้อสัตว์มีแต่ผัก  รวมถึงปัญหาอื่นๆเยอะแยะมากมายเต็มไปหมด  อย่างไรก็ตามไม่ใช่เพียงแค่ประเทศไทยเท่านั้นที่มีปัญหาเรื่องของอาหารกลางวันของเด็กนักเรียนแต่ในประเทศจีนก็มีปัญหาในลักษณะเดียวกันเช่นกัน 

            เมื่อวันที่ 14 เดือนสิงหาคม ปีพ.ศ. 2565  เว็บไซต์ชื่อดังของประเทศจีนได้มีการเปิดเผยเรื่องราวของโรงเรียนแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ในเมืองเอี้ยนไถมณฑลซานตง    โดยเมืองนี้อยู่ทางภูมิภาคตะวันออกของประเทศจีน    ได้เกิดเหตุการณ์คนในโลกออนไลน์ได้เห็นคลิปที่ทางอดีตคุณครูและพ่อครัวในโรงเรียนดังกล่าวนำมาเผยแพร่

ซึ่งเป็นคลิปที่เด็กนักเรียนกำลังนั่งกินอาหารกลางวันอยู่แต่จะเห็นได้ว่าอาหารที่เด็กกินนั้นเป็นอาหารที่ไม่สะอาดเช่นเนื้อสัตว์นั้นมีหนอนไต่ยั้วเยี้ยมีซากแมลงตายในอาหารและผักเน่า 

         หลังจากที่ผู้คนได้เห็นคลิปดังกล่าวถูกเผยแพร่ในโลกออนไลน์ปรากฏว่าผู้คนต่างก็แสดงอาการไม่พอใจเป็นอย่างมากต้องการที่จะให้มีการตรวจสอบโรงเรียนดังกล่าวโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ปกครองของเด็กนักเรียนที่มีการส่งบุตรหลานไปเรียนโรงเรียนดังกล่าวที่ได้เห็นว่าอาหารกลางวันของลูกหลานของตนเองนั้นเน่าเสียมีหนอนไต่ยั้วเยี้ย  นอกจากนี้ยังมีผลไม้ขึ้นราให้ให้เด็กได้กินอีกด้วย 

         อย่างไรก็ตามตามรายงานข่าวยังมีการระบุเพิ่มเติมด้วยว่าหลังจากที่คลิปดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไปในโลกออนไลน์

ปรากฏว่ามีคนที่สามารถถ่ายคลิปได้ว่าในช่วงเวลากลางคืนทางด้านครูใหญ่ของโรงเรียนดังกล่าวได้นำอาหารที่เน่าเสียที่เก็บไว้ในตู้เย็นไปกำจัดทิ้ง 

          สำหรับเรื่องนี้เมื่อเป็นข่าวโด่งดังในโลกออนไลน์และเกิดกระแสความไม่พอใจของคนในชุมชนปรากฏว่าทางการของท้องถิ่นในเมืองเอี้ยนไถ ก็ได้ออกมาทำการตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยมีการเรียกครูใหญ่และคุณครูคนอื่นๆมาทำการตรวจสอบหาข้อเท็จจริงซึ่งเบื้องต้นนั้นทางโรงเรียนให้การปฏิเสธ

โดยระบุว่าอาหารที่ทางโรงเรียนเตรียมไว้ให้เด็กรับประทานนั้นเป็นอาหารที่มีการตรวจสอบและคัดกรองอย่างดี สวนอาหารที่เน่าเสียนั้นไม่ใช่อาหารที่ทางโรงเรียนเอามาให้เด็กนักเรียนกินอย่างแน่นอน 

             สำหรับโรงเรียนที่เกิดเหตุนั้นเป็นโรงเรียนสำหรับเด็กอนุบาลดังนั้นเด็กทุกคนที่ทานอาหารเข้าไปอาจจะไม่สามารถบอกให้ผู้ใหญ่ทราบได้ว่าอาหารของตนเองนั้นเน่าเสียเนื่องจากว่าเด็กยังเล็กมากนักยังไม่สามารถแยกแยะได้ 

        อย่างไรก็ตามเรื่องนี้คงต้องรอทางการท้องถิ่นทำการตรวจสอบและชี้แจงให้กับประชาชนได้ทราบซึ่งคาดว่าผลการตรวจสอบเกี่ยวกับเรื่องของอาหารโรงเรียนจะประกาศออกมาในวันที่ 18 เดือนสิงหาคม ปีพ.ศ. 2565 

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย    alpha88

สาวแสบ สร้างโลกไฮโซทิพย์ หลอกคนรวยแต่งงาน

       สาวแสบ สร้างโลกไฮโซทิพย์   เว็บไซต์ชื่อดังของประเทศเวียดนามได้เปิดเผยเรื่องราวของหญิงสาวคนหนึ่งเมื่อวันที่ 14 เดือนกันยายน ปี พ.ศ. 2565

ซึ่งเป็นเรื่องราวของหญิงสาวที่กำลังโด่งดังในโลกออนไลน์ในประเทศเวียดนามอยู่ในตอนนี้ โดยหญิงสาวรายนี้เธอชื่อว่า VA สิ่งที่ทำให้ผู้คนในโลกออนไลน์ให้ความสนใจหญิงสาวรายนี้ก็เพราะว่ามีคนออกมาแฉถึงพฤติกรรมของเธอว่ามีการหลอกผู้คนผ่านทาง Social ว่าตนเองนั้นเป็นคนรวยเพื่อหวังที่จะแต่งงานกับคนที่รวยแล้วเธอก็ประสบความสำเร็จ   เมื่อเธอสามารถแต่งงานกับชายหนุ่มที่ร่ำรวยและได้เงินจากการแต่งงานไปในครั้งนั้นมากกว่า 20 ล้านบาทเลยทีเดียว 

          จากการเปิดเผยเรื่องราวของ VA ว่าเธอเป็นคนประเทศเวียดนามอาศัยอยู่ที่จังหวัดบั๊กซาง   พฤติกรรมของ VA ก็คือ จะมีการสร้างภาพในโลกออนไลน์ว่าตนเองเป็นคนรวยด้วยการขับรถ Super car และใช้แต่เสื้อผ้าแบรนด์เนมรวมถึงกระเป๋าแบรนด์เนมนอกจากนี้ยังอาศัยอยู่ในบ้านหรือกลางกรุงฮานอย 

         อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะเป็นรถซุปเปอร์คาร์หรือแม้แต่เสื้อผ้าแบรนด์เนมรวมถึงกระเป๋าแบรนด์เนมนั้นเป็นสิ่งที่ VA แต่งเรื่องขึ้นมาทั้งสิ้นเพราะกระเป๋าแบรนด์เนมรวมถึงเสื้อผ้าแบรนด์เนมนั้นเป็นของปลอมในขณะที่รถซุปเปอร์คาร์และบ้านหรูนั้นเป็นของที่ VA ส่งมาทั้งสิ้นและVA ยังมักจะถ่ายรูปต่างๆลงในโซเชียลทำให้คนเข้าใจว่าเธอนั้นเป็นคนรวยจริง 

        อย่างไรก็ตามความพยายามของ VA ประสบความสำเร็จเมื่อเธอรู้จักกับชายหนุ่มรายหนึ่งซึ่งถือว่าเป็นเศรษฐีในประเทศเวียดนามและทั้งคู่ก็ตัดสินใจแต่งงานกันซึ่งในวันแต่งงานนั้น VA ยังได้มีการเช่ารถซุปเปอร์คาร์ให้ส่งมาที่งานแต่งงานของเธอโดยบอกกับว่าที่เจ้าบ่าวของเธอว่าพ่อแม่เธอส่งมาให้เพื่อเป็นของขวัญวันแต่งงาน

นอกจากนี้เธอยังได้จ้างคนมาร่วมงานอีกมากกว่า 300 คนเดินให้ค่าจ้างหัวละ 460 ถึง 770 บาทในขณะที่เธอลงทุนเรื่องของค่าใช้จ่ายอื่นๆมูลค่าที่จะลงทุนไปนั้นประมาณ 1.5 ล้านบาทซึ่งเงินดังกล่าวนั้นเธอได้มาจากการไปกู้ยืมเงินมา

          ภายหลังจากการแต่งงานเสร็จสิ้น VA นายจ้างนักศึกษา 2 คนให้มารับหน้าที่เป็นพนักงานด้านเอกสาร

เพื่อให้สามีของเธอนั้นเซ็นยินยอมยกบ้านให้กับเธอ นอกจากนี้ VA ยังมักจะไปยืมเงินจากคนรู้จักของสามีรวมถึงญาติพี่น้องของสามีของเธอมา  ซึ่งยอดเงินจากบ้านรวมถึงเงินที่เธอไปยืมกับคนอื่นๆมานั้นมีมูลค่าประมาณถึง 26 ล้านบาทเลยทีเดียว 

            อย่างไรก็ตามหลังจากที่สามีของเธอและญาติของสามีของเธอรู้ความจริงต่างก็พากันไม่พอใจแต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้เพราะ VA  กำลังตั้งครรภ์ซึ่งครอบครัวของสามีเธอก็ได้มีการตั้งเงื่อนไขเอาไว้ว่าจะดูแลเธอจนกว่าเธอจะคลอดลูกหลังจากนั้นจะนำเด็กมาเลี้ยงดูเองส่วนตัวของVA งั้นก็ไปใช้ชีวิตที่อื่นอาจจะไปอาศัยอยู่ที่บ้านเกิดของเธอก็ได้ 

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย    alpha88

สาวถูกตำรวจล่อซื้อน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า รีดไถเงินแสนบาท 

          สาวถูกตำรวจล่อซื้อน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า  สำหรับบุหรี่ไฟฟ้านั้นนับได้ว่าเป็นสิ่งของผิดกฎหมายที่ทางรัฐบาลของไทยยังไม่ได้มีการอนุมัติให้ขายในประเทศไทยได้

ดังนั้นหากพ่อค้าแม่ค้าคนไหนก็ตามที่นำบุหรี่ไฟฟ้ามาขายก็ถือว่าทำผิดกฎหมายและถ้าเกิดตำรวจทราบเรื่องก็สามารถเข้าจับกุมดำเนินคดีได้ทันทีซึ่งจะต้องมีการเสียค่าปรับหรืออาจจะติดคุกได้ด้วย

      เมื่อวันที่ 18 เดือนกันยายน ปี พ.ศ. 2565 ได้มีหญิงสาวคนหนึ่งได้มีการเข้าร้องเรียนต่อผู้สื่อข่าวว่าเธอนั้นถูกแก๊งตำรวจรีดไถเงินข่มขู่เอาทรัพย์โดยหญิงสาวรายนี้ระบุว่าตัวเธอเองนั้นเป็นคนระยองทำอาชีพขายของผ่านทาง facebook โดยของที่เธอขายในก็คืออุปกรณ์ต่างๆเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้า  

          อย่างไรก็ตามหญิงสาวรายนี้ระบุว่าเธอได้รับการติดต่อจากลูกค้ารายหนึ่งเมื่อวันที่ 5 เดือนกันยายน ปี พ.ศ. 2565 หรือติดต่อขอซื้อน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าและเมื่อเธอนำไปให้กับลูกค้าปรากฏว่าเป็นตำรวจมาแสดงตัวว่าล่อซื้อและเข้าจับกุมเธอในที่สุด

อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ได้พาเธอไปที่สถานีตำรวจแต่มีการเรียกเธอไปพูดคุย โดยบอกว่าจะไม่ดำเนินคดีเอาผิดกับเธอแต่ให้เธอนั้นจ่ายเงินมา 1 แสนบาทแทน ซึ่งหญิงสาวรายนี้ระบุว่าตัวเธอเองนั้นได้บอกกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าไม่มีเงินมากตามที่เจ้าหน้าที่ตำรวจร้องขออย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจยังพยายามข่มขู่และแนะนำให้ไปยืมเงินญาติสุดท้ายหญิงสาวรายนี้จึงได้ตัดสินใจนำเงินสด 40,000 บาทมอบให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไปแลกกับการที่ไม่ต้องถูกดำเนินคดี 

             อย่างไรก็ตามแก๊งตำรวจไม่ได้เพียงแค่เรียกร้องเงินค่าถ่ายเท่านั้นแต่ยังให้ผู้เสียหายบอกรายชื่อคนที่ขายบุหรี่ไฟฟ้าให้กับแก๊งตำรวจเพิ่มอีก 2 รายด้วย

ซึ่งหญิงสาวรายนี้เชื่อว่าแก๊งตำรวจน่าจะมีการไปล่อซื้อแล้วรีดทรัพย์กับคนขายบุหรี่ไฟฟ้าที่ได้รายชื่อไปเช่นเดียวกันซึ่งเธอจำเป็นที่จะต้องให้ข้อมูลไปเพราะไม่อย่างนั้นตำรวจข่มขู่ว่าตัวเธอเองนั้นจะเป็นคนที่เดือดร้อนแทน

        อย่างไรก็ตามหญิงสาวรายนี้ระบุว่าแก๊งตำรวจจังหวัดระยองที่เกาะกลอยนั้นเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ชอบยัดความผิดให้กับประชาชนซึ่งเธอเคยเจอเจ้าหน้าที่ตำรวจจับตรวจฉี่ทั้งที่เธอนั้นไม่ได้เสพสารเสพติดแต่ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจบอกว่าชีวิตของเธอเป็นสีม่วงและเรียกเงินกับเธอเป็นจำนวนเงินถึง 20,000 บาท

ซึ่งไม่ใช่เธอเพียงคนเดียวที่นั้นพูดถูกตำรวจแก๊งเกาะกลอยนี้รีดไถประชาชนในจังหวัดระยองหลายคนก็มักจะถูกรีดไถในลักษณะนี้เช่นเดียวกันเธอจึงต้องการนำเรื่องนี้มาเผยแพร่ให้สื่อมวลชนได้ทราบเพื่อที่จะได้เป็นข่าวและหน่วยงานราชการจะได้เข้ามาดูแลปัญหาที่เกิดขึ้นเพื่อให้ประชาชนทุกคนในจังหวัดระยองได้รับความเป็นธรรม 

               

สนับสนุนโดย    alpha88

ลูกค้าไปเที่ยวคาเฟ่แมว แอบเปิดกรงแมว ทำแมวกัดกันได้รับบาดเจ็บ 

          ในโลกออนไลน์ได้มีร้านคาเฟ่สัตว์เลี้ยงร้านหนึ่งโพสต์ข้อความลงในโซเชียลวันที่ 6 เดือนเมษายนปีพศ. 2565 โดยข้อความที่โพสต์นั้นเป็นการโพสต์ต่อว่าลูกค้าที่ไปใช้บริการที่ร้านคาเฟ่ของตนเอง

ซึ่งได้มีการนำคลิปภาพถ่ายจากกล้องวงจรปิดภายในร้านนำมาลงโซเชียลให้ชาวเน็ตได้ดูกันด้วยโดยทางเจ้าของร้านนั้นไม่พอใจพฤติกรรมของลูกค้าที่ไปใช้บริการที่ร้านจึงได้นำข้อความนี้มาโพสต์เพื่อเป็นการเตือนสำหรับใครที่จะไปเที่ยวคาเฟ่สัตว์เลี้ยงนั้นว่าอย่าฝ่าฝืนกฎของทางร้านเพราะมันจะส่งผลต่อสัตว์เลี้ยงของทางร้าน

        สำหรับภาพในคลิปจะเห็นได้ว่าได้มีลูกค้าใช้ท่านหนึ่งเข้าไปใช้บริการคาเฟ่สัตว์เลี้ยงน้องหมาและน้องแมว

โดยคาเฟ่ดังกล่าวนั้นอยู่ที่จังหวัดชลบุรีอย่างไรก็ตามในขณะที่พนักงานงานกำลังยุ่งอยู่แล้วไม่ได้อยู่ตรงบริเวณกรงของสัตว์เลี้ยงนั้นปรากฏว่าลูกค้าชายได้โดยไปที่กรงสัตว์เลี้ยงแล้วมีการเปิดกรงสัตว์ทั้งที่ทางพนักงานก็ได้มีการแจ้งแล้วว่าจะมีสัตว์เลี้ยงที่ถูกขังไว้ในกรงห้ามเปิดออกมาโดยเด็ดขาดเนื่องจากว่ามีน้องแมวที่ไม่ถูกกันถูกขังเอาไว้ในกล่องเพื่อที่จะได้แยกกันซึ่งนอกจากพนักงานจะบอกกับลูกค้าแล้วยังมีการติดป้ายเอาไว้อย่างชัดเจนเกี่ยวกับเรื่องของการห้ามเปิดกรงแมว

          อย่างไรก็ตามชายคนดังกล่าวไม่ได้เพียงแค่เปิดกรงแมวเล่นเท่านั้นแต่ยังนำแมวเอาไปไว้ในกรงเดียวกันซึ่งแมวทั้ง 2 ตัวนั้นไม่ถูกกันทำให้แมวนั้นกัดกันภายในกองจนได้รับบาดเจ็บนอกจากนี้จะเห็นได้ว่าหลังจากที่ทำพฤติกรรมที่ฝ่าฝืนจากที่ทางร้านระบุเอาไว้แล้วทั้งลูกค้าเองก็ไม่ได้มีการแจ้งให้ทางร้านทราบว่าได้มีการกระทำดังกล่าวและแมวกัดกันจนได้รับบาดเจ็บกับปล่อยเรื่องราวนิ่งเฉยและออกจากร้านไปกว่าทางร้านจะมาเห็นว่าแมวกัดกันนั้นสภาพแมวก็ได้บาดเจ็บเป็นแผลเวอะหวะ

           ซึ่งการกระทำดังกล่าวนั้นถือว่าเป็นการกระทำที่ไม่น่ารักและสำหรับคนที่เป็นทาสแมวถ้าสัตว์เลี้ยงนั้นเรียกได้ว่าเป็นการทำร้ายจิตใจเป็นอย่างมากเพราะสงสารแมวมากที่ได้รับบาดเจ็บอย่างไรก็ตามเจ้าของคาเฟ่ยังระบุด้วยว่าทางร้านจะมีการเขียนข้อปฏิบัติข้อบังคับและขอความร่วมมือกับลูกค้าแปะไว้ที่บริเวณหน้าห้องของสัตว์เลี้ยงทุกห้อง  ไม่ว่าจะเป็นการห้างเปิดกรงสัตว์หรือแม้แต่การใส่รองเท้าเข้าไปในห้อง

          อย่างไรก็ตามทางเจ้าของร้านยืนยันว่าเรื่องนี้ต้องการที่จะแชร์ให้กับคนที่จะไปใช้บริการคาเฟ่แมวหรือคาเฟ่สุนัขว่าควรที่จะปฏิบัติตามกฎของทางคาเฟ่เนื่องจากว่ากดแต่ละกฎนั้นทางร้านจะมีการพิจารณาอยู่แล้วว่าตั้งขึ้นมาเพื่อประโยชน์ของสัตว์เลี้ยงมากที่สุดนั่นเองและถ้าหากใครที่ไม่ชื่นชอบสัตว์เลี้ยงก็ไม่ควรไปเที่ยวคาเฟ่

 

สนับสนุนโดย.    alpha88