สหรัฐไร้หลักฐานยูเอฟโอ

ล่าสุดหน่วยข่าวกรองเขาได้ออกมาเปิดเผยข้อมูลอย่างไม่เป็นทางการเขาบอกว่าจากการตรวจสอบยังไม่มีหลักฐานที่จะยืนยันได้อย่างชัดเจนว่าวัตถุลึกลับที่จะกล่าวนั้นเป็นของเอเลี่ยนหรือว่ามนุษย์อวกาศต้องยอมรับจริงๆเลยว่าหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา

ความสนใจที่เกี่ยวข้องกับยานลึกลับเกี่ยวกีบUFOเกี่ยวกับมนุษย์อวกาศตอนนี้กำลังได้รับความสนใจเป็นอย่างมากเลยจริงๆ

เพราว่าทางสำนกข่าวของสหรัฐอเมริกาเขาได้มีการเผยแพร่เป็นสารคดีเชิงข่าวในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับยานอวกาศและได้ไปสัมภาษณ์พยานอยู่หลายคนรวมไปถึงอดีตนักบินของงสหรัฐด้วยว่ามันมีอยู่จริงหรือไม่ยูเอฟโอ

ซึ่งอดีตนักบินก็ยังได้ยืนยันเขาบอกว่าเขาเจอวัตถุลึกลับที่ว่านี้อย่างน้อยทุกวัน2-3ปีที่ผ่านมานี่เป็นคำพูดที่ได้ให้มภาษณ์กับนักข่าวเพราฉะนั้นแล้วเรื่องของยานอวกาศมันได้ถูกนำเอามาพูดถึงกันอีกครั้งในยานของมนุษย์ต่างดาวและก็ล่าสุดทางสำนักข่าวสหรัฐพึ่งจะรายงานเมื่อวันพฤสบดีที่3มิถุนายนที่ผ่านมานี้เอง

โดยเขาได้อ้างถึงเจ้าหน้าที่รัฐระดับสูงสรุปการตรวจสอบแล้วก็การสืบค้นว่ารายงานหน่วยข่าวกรองของสหรัฐอเมริกาพอว่าไม่มีหลักฐานที่จะยืนยันได้อย่างชัดเจนว่าเจ้าวัตถุลึกลับที่ปรากฎอยู่ในคลิปที่กองการเรือของสหรัฐอเมริกาได้มีการเผยแพร่ออกมา

นอกจากนี้ยังไม่มีหลักฐานที่จะยืนยันได้เลยว่าวัตถุลึกลับที่ว่านี้มันเป็นยานของมนุษย์ต่างดาวหรือไม่แต่ทั้งนี้มันก็คงจะเป็นเรื่องยากที่จะอธิบายแล้วยังไม่ตัดความเป็นไปได้ว่ามันเป็นยานอวกาศทิ้งลงไปแต่อย่างใดแต่ในขณะเดียวกันเมื่องเขาได้ทำการตรวจสอบ

ประมาณ120เหตุการณ์ในช่วง20ปีที่ผ่านมาที่ตรวจพบวัตถุลึกลับบนน่านฟ้าโดยเขาได้บอกว่ามันได้มีการเคลื่อนไหวที่แปลกมากๆเลยมันลึกลับมากไม่ว่าจะเป็นการบินแบบผิดปกตินิสัยของวัตถุการบินการเปลี่ยนทิศทางหรือแม้กระทั่งมันสามารถที่จะดำดิ่งลงไปได้อย่างรวดเร็ว

พฤติกรรมเหล่านี้เขาก็เลยได้มองว่ามันไม่ใช่วัตถุที่เปนวัตถุในโลกที่มีการบินแบบปกติแล้วก็สิ่งที่กลาโหมของสหรัฐเขายืนยันเพียงแค่อย่างเดียวเลยคือมันไม่ใช่เทคโนโลยีลับของสหรัฐอเมริกาที่พัฒนาขึ้นมาแต่อย่างใดยืนยันในเรื่องตรงนี้แต่ก็ยังมีนักวิเคราะห์พายามที่จะคิดวิเคราะห์แล้วมันคืออะไร

ถ้ามันไม่ใช่ยูเอฟโอแล้วมันคืออะไรมีความเป็นไปได้ไหมที่มันจะเป็นบอลลูนอวกาศที่ใช้ในการศึกษามลพิษทางอากาศหรือว่าจะเป็นบอลลูนค้นหาแต่ทีนี่เจ้าบอลลูนต่างๆเหล่านี้มันก็ไม่ได้มีลักษณะการบินที่ลึกลับถึงขั้นที่จับภาพเอาไว้ได้

 

สนับสนุนโดย    Lotto432 เข้าสู่ระบบ

บีม กวี เจอดราม่าจากชาวเน็ต รักลูกแฝดไม่เท่ากัน 

จะกระแส ดราม่าของครอบครัว คุณบีม กวีนักร้อง วง D2B เพิ่งเคยเป็นอดีตนักร้องที่โด่งดังและตอนนี้คุณบีมเองนั้นได้เป็นคุณพ่อลูกแฝดทั้ง 4 คน

ซึ่งจะมี แฝดคนโตเป็นผู้ชาย และเพิ่งจะได้แฝดลูกสาวมาอีก 2 คนซึ่งเด็กๆกำลัง อยู่ในวัยที่กำลังน่ารักและแฟนคลับหนาแน่น แต่ก็ไม่วายเจอกระแสดราม่ารักลูกไม่เท่ากันบ้าง ขอดาวจากแฟนคลับบ้าง จากการขอดาวนั้นเป็นการขอดาวจากการไลฟ์สดของ Facebook

ซึ่งจะมีการให้ของขวัญให้ดาวจากแฟนคลับที่ชอบและรักในความน่ารักของเด็กๆ แฟนคลับ ก็อยากจะมอบของขวัญให้กับเด็กๆโดยเป็นการส่งสติ๊กเกอร์และดาวซึ่งมีมูลค่าสามารถไปแลกเป็นเงินได้

แต่เรื่องราวกลับกลายเป็นกระแสดราม่าเพราะว่ามีชาวเน็ตบางส่วนมา comment ว่าหาเงินจากการเลี้ยงลูกมีฐานะอยู่แล้วทำไมถึงต้องมาขอดาวจากแฟนคลับ

ทางคุณบีมกวีก็ไม่ได้นิ่งนอนใจก็ได้ออกมาชี้แจงว่าในการขอดาวก็เป็นการพูดหยอกล้อเล่นกับทางแฟนคลับของน้องธีร์ และ น้องพีร์ ประมาณว่าหากชอบน้องแล้วก็กดหัวใจหรือส่งดวงดาวให้กับน้องเพื่อให้น้องได้ของเล่น

ซึ่งไม่ได้เป็นการบังคับแฟนคลับแต่อย่างใดเป็นการพูดหยอกล้อกับแบบขับไม่คิดว่าจะเป็นกระแสดราม่าไปในทางแง่ลบ แต่ก็ยังมีแฟนคลับที่คอยให้กำลังใจไม่ให้สนใจในคอมเมนต์แง่ลบแบบนี้ให้ปล่อยผ่าน

ซึ่งทุกคนที่ให้ดาวเหลือให้ของขวัญเป็นความต้องการให้จากใจจริงๆของแฟนคลับที่อยากจะมอบให้กับเด็กๆ ตอนเด็กๆกำลังวัยที่น่ารักและพูดจาฉะฉาน

ซึ่งเป็นที่ทุกคนดูแล้วมีความสุขของเด็กๆ ผู้ใหญ่ก็ต่างให้ความสนใจจึงเป็นแฟนคลับทาง Facebook คอยติดตามคอยดูความน่ารักของเด็กๆ ตลอด แต่หลังจากนั้นก็มี แฝดอีก 1 คู่เป็นผู้หญิงที่เพิ่งจะคลอดออกมาได้ไม่กี่เดือน

ชื่อน้องอัยวา และ น้องอัญญา เป็นแฝดน้องที่ความน่ารักก็ไม่ต่างจากพี่ชายทั้งสองคนเด็กๆทั้ง 4 คนก็ต่างมีแฟนคลับเพิ่มขึ้นเรื่อยๆทุกวันความน่ารักของเด็กทั้ง 4 คนซึ่งอยู่ในวัยกำลังโต แต่เห็นว่าเป็นเด็กแฟนคลับหนาแน่นออกงานมีแฟนคลับกรี๊ดห้างแตก ความน่ารักของน้องๆหาเงินได้เองในวัยที่กำลังโตสามารถเก็บเงินไว้ใช้ในตอนโตได้

ทางด้านคุณออย ภรรยาของคุณบีม และเป็นคุณแม่ของน้องทั้ง 4 คนก็ได้ออกมาพูดว่าให้มองเด็กๆเป็นวัยที่น่ารักไม่อยากให้มีแง่ลบหรือคิดไปในทางด้านไม่ดีให้มองแต่ความน่ารักของเด็กๆ อย่าเอาเด็กไปเปรียบเทียบกันเลย

ว่าใครน่ารักกว่าใครซึ่งเด็กแต่ละคนมีความดื้อมีความซนมีความน่ารักอยู่ในตัวของเด็ก แต่ก็ไม่มีพ่อแม่คนไหนที่รักลูกไม่เท่ากันคุณออยกล่าวอีกว่าคนเป็นพ่อเป็นแม่ยังไงก็รักลูกเท่ากันหมดทุกคน ไม่มีการรักลูกไม่เท่ากันแน่นอน

เพราะเลี้ยงเด็กๆมากกับมือของตนเองรู้นิสัยของลูกเป็นอย่างดีและคอยอบรมสั่งสอนให้ลูกเป็นคนดีช่วยเหลือสังคมในอนาคตหากโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ และตอนนี้เด็กๆกำลังโตพี่มองว่าเป็นเด็กที่มีพัฒนาการไปเรื่อยๆจะดีกว่าอย่าเอาเด็ดไปเปรียบเทียบกันแต่ละคนเลย

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย    ชุดตรวจ hiv

โรงเรียนอนุบาลจีน โดนตรวจสอบ หลังพบอาหารกลางวันเด็ก เน่าเสีย-หนอนไต่ยั้วเยี้ย

 

         โรงเรียนอนุบาลจีน   ปัญหาเรื่องอาหารกลางวัน ของเด็กนักเรียนนั้นเราพบเห็นกันอยู่เป็นประจำซึ่งเรามักจะพบว่าอาหารกลางวันของเด็กนักเรียนมีน้อยจนเกินไป

หรืออาหารกลางวันไม่มีเนื้อสัตว์มีแต่ผัก  รวมถึงปัญหาอื่นๆเยอะแยะมากมายเต็มไปหมด  อย่างไรก็ตามไม่ใช่เพียงแค่ประเทศไทยเท่านั้นที่มีปัญหาเรื่องของอาหารกลางวันของเด็กนักเรียนแต่ในประเทศจีนก็มีปัญหาในลักษณะเดียวกันเช่นกัน 

            เมื่อวันที่ 14 เดือนสิงหาคม ปีพ.ศ. 2565  เว็บไซต์ชื่อดังของประเทศจีนได้มีการเปิดเผยเรื่องราวของโรงเรียนแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ในเมืองเอี้ยนไถมณฑลซานตง    โดยเมืองนี้อยู่ทางภูมิภาคตะวันออกของประเทศจีน    ได้เกิดเหตุการณ์คนในโลกออนไลน์ได้เห็นคลิปที่ทางอดีตคุณครูและพ่อครัวในโรงเรียนดังกล่าวนำมาเผยแพร่

ซึ่งเป็นคลิปที่เด็กนักเรียนกำลังนั่งกินอาหารกลางวันอยู่แต่จะเห็นได้ว่าอาหารที่เด็กกินนั้นเป็นอาหารที่ไม่สะอาดเช่นเนื้อสัตว์นั้นมีหนอนไต่ยั้วเยี้ยมีซากแมลงตายในอาหารและผักเน่า 

         หลังจากที่ผู้คนได้เห็นคลิปดังกล่าวถูกเผยแพร่ในโลกออนไลน์ปรากฏว่าผู้คนต่างก็แสดงอาการไม่พอใจเป็นอย่างมากต้องการที่จะให้มีการตรวจสอบโรงเรียนดังกล่าวโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ปกครองของเด็กนักเรียนที่มีการส่งบุตรหลานไปเรียนโรงเรียนดังกล่าวที่ได้เห็นว่าอาหารกลางวันของลูกหลานของตนเองนั้นเน่าเสียมีหนอนไต่ยั้วเยี้ย  นอกจากนี้ยังมีผลไม้ขึ้นราให้ให้เด็กได้กินอีกด้วย 

         อย่างไรก็ตามตามรายงานข่าวยังมีการระบุเพิ่มเติมด้วยว่าหลังจากที่คลิปดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไปในโลกออนไลน์

ปรากฏว่ามีคนที่สามารถถ่ายคลิปได้ว่าในช่วงเวลากลางคืนทางด้านครูใหญ่ของโรงเรียนดังกล่าวได้นำอาหารที่เน่าเสียที่เก็บไว้ในตู้เย็นไปกำจัดทิ้ง 

          สำหรับเรื่องนี้เมื่อเป็นข่าวโด่งดังในโลกออนไลน์และเกิดกระแสความไม่พอใจของคนในชุมชนปรากฏว่าทางการของท้องถิ่นในเมืองเอี้ยนไถ ก็ได้ออกมาทำการตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยมีการเรียกครูใหญ่และคุณครูคนอื่นๆมาทำการตรวจสอบหาข้อเท็จจริงซึ่งเบื้องต้นนั้นทางโรงเรียนให้การปฏิเสธ

โดยระบุว่าอาหารที่ทางโรงเรียนเตรียมไว้ให้เด็กรับประทานนั้นเป็นอาหารที่มีการตรวจสอบและคัดกรองอย่างดี สวนอาหารที่เน่าเสียนั้นไม่ใช่อาหารที่ทางโรงเรียนเอามาให้เด็กนักเรียนกินอย่างแน่นอน 

             สำหรับโรงเรียนที่เกิดเหตุนั้นเป็นโรงเรียนสำหรับเด็กอนุบาลดังนั้นเด็กทุกคนที่ทานอาหารเข้าไปอาจจะไม่สามารถบอกให้ผู้ใหญ่ทราบได้ว่าอาหารของตนเองนั้นเน่าเสียเนื่องจากว่าเด็กยังเล็กมากนักยังไม่สามารถแยกแยะได้ 

        อย่างไรก็ตามเรื่องนี้คงต้องรอทางการท้องถิ่นทำการตรวจสอบและชี้แจงให้กับประชาชนได้ทราบซึ่งคาดว่าผลการตรวจสอบเกี่ยวกับเรื่องของอาหารโรงเรียนจะประกาศออกมาในวันที่ 18 เดือนสิงหาคม ปีพ.ศ. 2565 

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย    alpha88

พุฒ – จุ๋ย เจอดราม่า หลังจากที่ตอบมดดำว่าไม่ไปร่วมงานไว้อาลัย แตงโม เพราะอะไร 

         ในช่วงนี้ไม่ว่าดาราคนไหนไปออกรายการอะไรเรื่องที่จะต้องมีการพูดถึงกันมากก็คือเรื่องการเสียชีวิตของนักแสดงสาวแตงโมซึ่งแต่ละคนนั้นก็ออกมาพูดถึงเรื่องราวในอดีตที่เคยร่วมงานกับนักแสดงสาวที่เสียชีวิตรวมถึงมีการพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องของการไปร่วมงานที่จัดขึ้นเพื่อไว้อาลัยกับการจากไปของนักแสดงสาวในครั้งนี้

            พุฒ – จุ๋ย เจอดราม่า  เมื่อวันที่ 10 เดือนมีนาคมปีพ.ศ 2565 รายการแฉได้มีการเชิญนักแสดงคู่สามีภรรยา พุฒ – จุ๋ย  มาออกรายการแล้วในจังหวะที่มีการพูดคุยกันอยู่นั้น

ทางด้านพิธีกรมดดำก็ได้มีการพูดคุยกับ แขกรับเชิญพุฒ – จุ๋ย เกี่ยวกับการเดินทางไปร่วมงานไว้อาลัยให้กับอดีตนักแสดงสาวแตงโมว่าจะไปวันไหนหรือว่าจะไปหรือไม่ซึ่งในจังหวะนั้นเองทางด้านจุ๋ยวรัทยาก็ได้มีการหันไปตอบกับมดดำว่าตัวเธอนั้นคงจะไม่ได้ไปร่วมงานรวมถึงทางพุฒ เองก็ไม่ได้ไปร่วมงานด้วยเช่นเดียวกัน

ซึ่งเธอได้มีการพูดในลักษณะเหมือนกับว่าตัวเธอนั้นไม่ค่อยรู้จักสนิทสนมกับแตงโมมากนักจึงไม่ได้ไปร่วมงานในครั้งนี้

        อย่างไรก็ตามหลังจากที่ภาพนี้ถูกเผยแพร่ออกไปในโลกออนไลน์ก็ชาวโซเชียลต่างก็ไม่พอใจที่ทั้งพุฒ – จุ๋ย ออกปากว่าไม่ได้สนิทกับแตงโมจึงไม่ได้ไปร่วมงานพิธีไว้อาลัยเพราะว่าทางฝ่ายชายเองนั้นก็เคยร่วมงานกับแตงโมอยู่หลายครั้งนอกจากนี้ทางนักแสดงสาวเองนั้นก็เคยเป็นนักแสดงในสังกัดช่อง 7 กับแตงโมมาก่อนก่อนที่จะมีการย้ายสังกัด

ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้ทำให้เหล่า Social นั้นไปทำการต่อว่าคู่สามีภรรยาคู่นี้ผ่านทางโลกโซเชียลจนทำให้ทั้งคู่ต้องออกมาไลฟ์สดอธิบายเกี่ยวกับเรื่องของการที่ไม่ไปร่วมงานไว้อาลัยในครั้งนี้

        โดยยืนยันว่าถึงแม้ว่าจะไม่ไปร่วมงาน ไว้อาลัยแตงโมแต่ก็จะมีการเตรียมให้ผู้จัดการส่งพวงหรีดไปร่วมงานแต่ระหว่างที่มีการประสานงานสั่งพวงหรีดอยู่นั้นปรากฏว่าทางด้านแรงงานในงานจัดงานพิธีไว้อาลัยของแตงโมได้มีการแจ้งมาว่าที่งานพิธีไว้อาลัยจะไม่มีการรับพวงหรีดดังนั้นจึงยังไม่ได้มีการส่งอะไรไปช่วยงาน

แต่สำหรับการที่ไม่ได้เดินทางไปร่วมพิธีไว้อาลัยนั่นก็เพราะว่าทั้งพุฒ – จุ๋ย กำลังอยู่ในขั้นตอนของการรักษาสุขภาพเพราะทั้งคู่นั้นกำลังวางแผนที่จะมีบุตรกันจึงไม่สามารถไปร่วมงานในพิธีดังกล่าวได้เนื่องจากว่าอาจจะเกรงเรื่องของการติดไวรัสโควิช- นั่นเอง 

           อย่างไรก็ตามหลังจากที่ทั้งสองคนได้ออกมาชี้แจงกรณีที่ไม่ไปร่วมงานไว้อาลัยก็ทำให้คนในโลกโซเชียลบางส่วนนั้นต่างก็เข้าใจซึ่งบางส่วนก่อนก็มองว่าใครจะไปร่วมงานหรือไม่ไปร่วมงานก็เป็นสิทธิส่วนบุคคลไม่จำเป็นที่จะต้องรู้จักกันแล้วจะไปร่วมงานไว้อาลัยกันทุกคนเพราะบางคนนั้นก็อาจจะมีเหตุความจำเป็นส่วนตัวที่ไม่สามารถเดินทางไปร่วมงานได้ 

 

ได้รับการสนับสนุนจาก    huaydee

สาวแสบ สร้างโลกไฮโซทิพย์ หลอกคนรวยแต่งงาน

       สาวแสบ สร้างโลกไฮโซทิพย์   เว็บไซต์ชื่อดังของประเทศเวียดนามได้เปิดเผยเรื่องราวของหญิงสาวคนหนึ่งเมื่อวันที่ 14 เดือนกันยายน ปี พ.ศ. 2565

ซึ่งเป็นเรื่องราวของหญิงสาวที่กำลังโด่งดังในโลกออนไลน์ในประเทศเวียดนามอยู่ในตอนนี้ โดยหญิงสาวรายนี้เธอชื่อว่า VA สิ่งที่ทำให้ผู้คนในโลกออนไลน์ให้ความสนใจหญิงสาวรายนี้ก็เพราะว่ามีคนออกมาแฉถึงพฤติกรรมของเธอว่ามีการหลอกผู้คนผ่านทาง Social ว่าตนเองนั้นเป็นคนรวยเพื่อหวังที่จะแต่งงานกับคนที่รวยแล้วเธอก็ประสบความสำเร็จ   เมื่อเธอสามารถแต่งงานกับชายหนุ่มที่ร่ำรวยและได้เงินจากการแต่งงานไปในครั้งนั้นมากกว่า 20 ล้านบาทเลยทีเดียว 

          จากการเปิดเผยเรื่องราวของ VA ว่าเธอเป็นคนประเทศเวียดนามอาศัยอยู่ที่จังหวัดบั๊กซาง   พฤติกรรมของ VA ก็คือ จะมีการสร้างภาพในโลกออนไลน์ว่าตนเองเป็นคนรวยด้วยการขับรถ Super car และใช้แต่เสื้อผ้าแบรนด์เนมรวมถึงกระเป๋าแบรนด์เนมนอกจากนี้ยังอาศัยอยู่ในบ้านหรือกลางกรุงฮานอย 

         อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะเป็นรถซุปเปอร์คาร์หรือแม้แต่เสื้อผ้าแบรนด์เนมรวมถึงกระเป๋าแบรนด์เนมนั้นเป็นสิ่งที่ VA แต่งเรื่องขึ้นมาทั้งสิ้นเพราะกระเป๋าแบรนด์เนมรวมถึงเสื้อผ้าแบรนด์เนมนั้นเป็นของปลอมในขณะที่รถซุปเปอร์คาร์และบ้านหรูนั้นเป็นของที่ VA ส่งมาทั้งสิ้นและVA ยังมักจะถ่ายรูปต่างๆลงในโซเชียลทำให้คนเข้าใจว่าเธอนั้นเป็นคนรวยจริง 

        อย่างไรก็ตามความพยายามของ VA ประสบความสำเร็จเมื่อเธอรู้จักกับชายหนุ่มรายหนึ่งซึ่งถือว่าเป็นเศรษฐีในประเทศเวียดนามและทั้งคู่ก็ตัดสินใจแต่งงานกันซึ่งในวันแต่งงานนั้น VA ยังได้มีการเช่ารถซุปเปอร์คาร์ให้ส่งมาที่งานแต่งงานของเธอโดยบอกกับว่าที่เจ้าบ่าวของเธอว่าพ่อแม่เธอส่งมาให้เพื่อเป็นของขวัญวันแต่งงาน

นอกจากนี้เธอยังได้จ้างคนมาร่วมงานอีกมากกว่า 300 คนเดินให้ค่าจ้างหัวละ 460 ถึง 770 บาทในขณะที่เธอลงทุนเรื่องของค่าใช้จ่ายอื่นๆมูลค่าที่จะลงทุนไปนั้นประมาณ 1.5 ล้านบาทซึ่งเงินดังกล่าวนั้นเธอได้มาจากการไปกู้ยืมเงินมา

          ภายหลังจากการแต่งงานเสร็จสิ้น VA นายจ้างนักศึกษา 2 คนให้มารับหน้าที่เป็นพนักงานด้านเอกสาร

เพื่อให้สามีของเธอนั้นเซ็นยินยอมยกบ้านให้กับเธอ นอกจากนี้ VA ยังมักจะไปยืมเงินจากคนรู้จักของสามีรวมถึงญาติพี่น้องของสามีของเธอมา  ซึ่งยอดเงินจากบ้านรวมถึงเงินที่เธอไปยืมกับคนอื่นๆมานั้นมีมูลค่าประมาณถึง 26 ล้านบาทเลยทีเดียว 

            อย่างไรก็ตามหลังจากที่สามีของเธอและญาติของสามีของเธอรู้ความจริงต่างก็พากันไม่พอใจแต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้เพราะ VA  กำลังตั้งครรภ์ซึ่งครอบครัวของสามีเธอก็ได้มีการตั้งเงื่อนไขเอาไว้ว่าจะดูแลเธอจนกว่าเธอจะคลอดลูกหลังจากนั้นจะนำเด็กมาเลี้ยงดูเองส่วนตัวของVA งั้นก็ไปใช้ชีวิตที่อื่นอาจจะไปอาศัยอยู่ที่บ้านเกิดของเธอก็ได้ 

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย    alpha88

ทนายตั้ม โพสต์ รู้สึกผิดหวังหลังจากที่โดนตำหนิเรื่องของการติดตามคดีแตงโม

            ทนายตั้ม โพสต์ รู้สึกผิดหวัง  สำหรับ ทนายสิทธา เบี้ยบังเกิด นั้นเป็นอีกหนึ่งคนที่ให้ความสำคัญพยายามที่จะสืบหาสาเหตุการเสียชีวิตของนักแสดงสาวแตงโมนิดา

โดยทนายตั้มนั้นค่อนข้างมีความสนิทสนมกับนักแสดงสาวเป็นพิเศษก่อนที่นักแสดงสาวจะเสียชีวิตเนื่องจากว่านักแสดงสาวนั้นเคยไปทานอาหารกับครอบครัวของทนายตั้มมาก่อนและรู้จักกับครอบครัวของทนายตั้มเป็นอย่างดี  ซึ่งการเสียชีวิตของแตงโมนั้นยังมีข้อสงสัยอีกหลายอย่างทำให้ทนายตั้มนั้นอยากจะเรียกร้องหาความเป็นธรรมให้กับนักแสดงสาว

       อย่างไรก็ตามในช่วงแรกนั้นทนายตั้มได้เข้าหาคุณแม่ของแตงโมเพื่อที่จะให้ความช่วยเหลือเกี่ยวกับเรื่องของการติดตามหาสาเหตุของการเสียชีวิตของแตงโมแต่ภายหลังนั้นก็ถูกคุณแม่ของแตงโมตำหนิเมื่อเข้ามาก้าวก่ายเรื่องของคดีทางที่คุณแม่นั้นไม่ได้มีการร้องขอความช่วยเหลือนอกจากนี้คุณแม่ของแตงโม

ยังได้มีการเขียนจดหมายส่งไปยังสื่อต่างๆยืนยันว่ามีการว่าจ้างทนายความเป็นท่านอื่นและไม่ได้มีการว่าจ้างทนายตั้มให้ดำเนินคดีของแตงโมแต่อย่างใดพร้อมกันนี้ยังมีการเขียนจดหมายมาถึงทนายตั้มดูให้ยุติการติดตามหาความเป็นธรรมให้กับแตงโมเพราะคุณแม่นั้นได้มีการเตรียมว่าจ้างทนายความให้ติดตามคดีดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

        อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าคุณแม่ของแตงโมจะออกมาต่อว่าทนายตั้มแต่ทางด้านทนายตั้มเองนั้นก็พยายามที่จะยังสืบหาข้อเท็จจริงต่อไป

เพราะมองว่าเป็นการทำความจริงให้ปรากฏครั้งสุดท้ายเพื่อตัวแตงโมนั่นเองซึ่งเรื่องนี้พี่ชายของแตงโมซึ่งเป็นพี่ชายคนละพ่อก็ได้ออกมายืนข้างฝั่งทางทนายตั้มยืนยันว่าจะเป็นคนช่วยเหลือทนายตั้มในการออกมาเคลื่อนไหวร้องขอความเป็นธรรมให้กับน้องสาวของตนเอง

         อย่างไรก็ตามได้มีการโพสต์เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับการร่วมมือกันระหว่างทนายสิทธาและพี่ชายของแตงโมเพียงแค่วันเดียวเท่านั้นปรากฏว่าวันรุ่งขึ้นทางพี่ชายของแตงโมก็ประกาศยุติการร้องขอความเป็นธรรมให้กับน้องสาวของตนเองทันทีโดยอ้างว่าไม่อยากมีปัญหากับแม่เพราะว่าแม่นั้นชรามากแล้วซึ่งเรื่องนี้ทำให้ทนายตั้มนั้นต้องออกมาโพสต์ว่าตนเอง

นั้นรู้สึกผิดหวังเป็นอย่างมากทั้งการที่โดนแม่ของแตงโมตำหนิทั้งที่พยายามอย่างเต็มที่ที่จะร้องขอความเป็นธรรมให้กับลูกสาวของคุณแม่ในขณะเดียวกันพี่ชายของแตงโมที่ตอนแรกจะให้ความร่วมมือในการสืบสาวคดีความให้ชัดเจนก็ออกมาเทตนเอง  ทำให้ทนายตั้มถึงกับโพสต์ว่าเลือดย่อมข้นกว่าน้ำของแท้

        อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าทนายตั้มจะไม่ได้รับความร่วมมือจากญาติของแตงโมในการหาความเป็นธรรมในการเสียชีวิตในครั้งนี้แต่ทนายตั้มก็ยืนยันว่าจะยังคงหาความเป็นธรรมให้กับแตงโมจนกว่าจะรู้สาเหตุของการเสียชีวิตในครั้งนี้เพื่อเป็นการช่วยเหลือแตงโมเป็นครั้งสุดท้าย

 

สนับสนุนโดย    มั่งมีหวย

สาวถูกตำรวจล่อซื้อน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า รีดไถเงินแสนบาท 

          สาวถูกตำรวจล่อซื้อน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า  สำหรับบุหรี่ไฟฟ้านั้นนับได้ว่าเป็นสิ่งของผิดกฎหมายที่ทางรัฐบาลของไทยยังไม่ได้มีการอนุมัติให้ขายในประเทศไทยได้

ดังนั้นหากพ่อค้าแม่ค้าคนไหนก็ตามที่นำบุหรี่ไฟฟ้ามาขายก็ถือว่าทำผิดกฎหมายและถ้าเกิดตำรวจทราบเรื่องก็สามารถเข้าจับกุมดำเนินคดีได้ทันทีซึ่งจะต้องมีการเสียค่าปรับหรืออาจจะติดคุกได้ด้วย

      เมื่อวันที่ 18 เดือนกันยายน ปี พ.ศ. 2565 ได้มีหญิงสาวคนหนึ่งได้มีการเข้าร้องเรียนต่อผู้สื่อข่าวว่าเธอนั้นถูกแก๊งตำรวจรีดไถเงินข่มขู่เอาทรัพย์โดยหญิงสาวรายนี้ระบุว่าตัวเธอเองนั้นเป็นคนระยองทำอาชีพขายของผ่านทาง facebook โดยของที่เธอขายในก็คืออุปกรณ์ต่างๆเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้า  

          อย่างไรก็ตามหญิงสาวรายนี้ระบุว่าเธอได้รับการติดต่อจากลูกค้ารายหนึ่งเมื่อวันที่ 5 เดือนกันยายน ปี พ.ศ. 2565 หรือติดต่อขอซื้อน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าและเมื่อเธอนำไปให้กับลูกค้าปรากฏว่าเป็นตำรวจมาแสดงตัวว่าล่อซื้อและเข้าจับกุมเธอในที่สุด

อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ได้พาเธอไปที่สถานีตำรวจแต่มีการเรียกเธอไปพูดคุย โดยบอกว่าจะไม่ดำเนินคดีเอาผิดกับเธอแต่ให้เธอนั้นจ่ายเงินมา 1 แสนบาทแทน ซึ่งหญิงสาวรายนี้ระบุว่าตัวเธอเองนั้นได้บอกกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าไม่มีเงินมากตามที่เจ้าหน้าที่ตำรวจร้องขออย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจยังพยายามข่มขู่และแนะนำให้ไปยืมเงินญาติสุดท้ายหญิงสาวรายนี้จึงได้ตัดสินใจนำเงินสด 40,000 บาทมอบให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไปแลกกับการที่ไม่ต้องถูกดำเนินคดี 

             อย่างไรก็ตามแก๊งตำรวจไม่ได้เพียงแค่เรียกร้องเงินค่าถ่ายเท่านั้นแต่ยังให้ผู้เสียหายบอกรายชื่อคนที่ขายบุหรี่ไฟฟ้าให้กับแก๊งตำรวจเพิ่มอีก 2 รายด้วย

ซึ่งหญิงสาวรายนี้เชื่อว่าแก๊งตำรวจน่าจะมีการไปล่อซื้อแล้วรีดทรัพย์กับคนขายบุหรี่ไฟฟ้าที่ได้รายชื่อไปเช่นเดียวกันซึ่งเธอจำเป็นที่จะต้องให้ข้อมูลไปเพราะไม่อย่างนั้นตำรวจข่มขู่ว่าตัวเธอเองนั้นจะเป็นคนที่เดือดร้อนแทน

        อย่างไรก็ตามหญิงสาวรายนี้ระบุว่าแก๊งตำรวจจังหวัดระยองที่เกาะกลอยนั้นเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ชอบยัดความผิดให้กับประชาชนซึ่งเธอเคยเจอเจ้าหน้าที่ตำรวจจับตรวจฉี่ทั้งที่เธอนั้นไม่ได้เสพสารเสพติดแต่ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจบอกว่าชีวิตของเธอเป็นสีม่วงและเรียกเงินกับเธอเป็นจำนวนเงินถึง 20,000 บาท

ซึ่งไม่ใช่เธอเพียงคนเดียวที่นั้นพูดถูกตำรวจแก๊งเกาะกลอยนี้รีดไถประชาชนในจังหวัดระยองหลายคนก็มักจะถูกรีดไถในลักษณะนี้เช่นเดียวกันเธอจึงต้องการนำเรื่องนี้มาเผยแพร่ให้สื่อมวลชนได้ทราบเพื่อที่จะได้เป็นข่าวและหน่วยงานราชการจะได้เข้ามาดูแลปัญหาที่เกิดขึ้นเพื่อให้ประชาชนทุกคนในจังหวัดระยองได้รับความเป็นธรรม 

               

สนับสนุนโดย    alpha88

ครูประมาท ลืมเด็กป.2 ไว้ในรถจนเสียชีวิต 

กรณีที่มีข่าวว่ามีเด็กวัย 7 ขวบซึ่งเป็นเด็กนักเรียนชั้นป. 2 โรงเรียนเอกชนชื่อดังในจังหวัดชลบุรีเขตพื้นที่ของอำเภอพานทอง   จังหวัดชลบุรี 

ครูประมาท ลืมเด็กป.2 ไว้ในรถ ถูกคุณครูลืมไว้ในรถตู้ซึ่งเป็นรถรับส่งเด็กนักเรียนตั้งแต่ช่วงเช้าแล้วมาพบอีกทีในช่วงเวลาเย็นทำให้เด็กเสียชีวิต    สำหรับคดีนี้ได้มีความคืบหน้าไปบางส่วนเนื่องจากว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการเรียกตัวครูแอนและคนขับรถตู้ซึ่งก็เป็นคุณครูเหมือนกันมาให้ปากคำ

            สำหรับการให้ ปากคำของคุณครูคนขับรถและครูเวรซึ่งนั่งประจำอยู่บนรถตู้ได้ให้ข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าได้มีการขับรถไปรับเด็กหญิงวัย 7 ขวบที่เสียชีวิตที่บ้านหลังจากนั้นเด็กหญิงก็ขึ้นนั่งบนรถ ช่วงกลางของรถตู้ แล้วรถตู้ก็ยังได้ขับไปรับเด็กนักเรียนคนอื่นหลังจากนั้นจึงมาส่งเด็กนักเรียนที่โรงเรียนช่วงประมาณ 07:20 น . 

           อย่างไรก็ตาม ครูสาวซึ่งเป็นคนเวรได้ให้ข้อมูลว่าจะได้มีการตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว หลังจากที่เด็กนักเรียนลงจากรถตู้ซึ่งครูเวรยืนยันว่าไม่เห็นว่าบนรถตู้นั้นยังมีเด็กนักเรียนหญิงวัย 7 ขวบอยู่จึงได้บอกให้คุณครูที่เป็นคนขับรถตู้นำรถไปจอดที่ลานจอดรถ  สำหรับครูซึ่งเป็นคนขับรถตู้นั้นได้ให้ข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า

โดยปกติแล้ว เมื่อครูพาเด็กลงจากรถเสร็จเรียบร้อยแล้วตนเองก็จะนำรถไปจอดที่ลานจอดรถซึ่งในวันดังกล่าวนั้นเมื่อนำรถมาจอดที่บริเวณลานจอดรถก็ได้เปิดประตูรถตู้เพื่อวางบนเกาะและวางใต้เบาะแต่ก็ไม่พบเห็นเด็กนักเรียนวัย 7 ขวบอยู่ในรถซึ่งครูที่ขับรถตู้เย็นยันว่าได้มีการมองสำรวจไปในรถตู้ถึง 2 ครั้งและยืนยันไม่เห็นเด็กอยู่ในรถจริงๆ 

        อย่างไรก็ตามคนขับรถตู้ด้วยกล่าวว่าหลังจากที่สำรวจแล้วว่าในรถไม่มีใครลืมของและไม่มีเด็กอยู่ในรถจึงได้ปิดประตูแต่ไม่ได้มีการล็อครถเอาไว้จนถึงช่วงเวลา 16:00 น จึงได้มาขับรถเพื่อไปรับเด็กนักเรียนกลับไปส่งที่บ้านซึ่งหลังจากที่เด็กนักเรียนชั้นอนุบาลเปิดประตูรถก็พบว่ามีเด็กหญิงวัย 7 ขวบนอนเสียชีวิตอยู่ในรถแล้ว 

           อย่างไรก็ตามมีเด็กนักเรียนชายซึ่งเป็นเพื่อนของเด็กหญิงผู้เสียชีวิตและเป็นคนที่นั่งมาในรถตู้คันเดียวกันกับผู้เสียชีวิตได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมด้วยว่าโดยปกติแล้วผู้เสียชีวิตนั้นมักจะนั่งอยู่ด้านหน้าข้างคนขับหรืออาจจะมานั่งอยู่ในรถแต่ก็จะนั่งอยู่แถวหน้าแต่ในวันดังกล่าวนั้นผู้เสียชีวิตนั่งอยู่แถวกลางและโดยปกติแล้วผู้เสียชีวิตมักจะนอนหลับเมื่อขึ้นมาบนรถตู้แต่จะตื่นทันเมื่อรถมาถึงโรงเรียน

        สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนซึ่งในขณะนี้ยังไม่ได้มีการแจ้งข้อหาให้กับครูทั้งสองคน    มั่งมีหวยออนไลน์   อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะมีการสอบสวนและรอผลการผ่าชันสูตรศพของเด็กหญิงที่เสียชีวิต 

โจรแสบกำลังจะย่องเข้าไปในบ้านแต่ต้องตกใจอย่างแรง หนีแทบไม่ทันเมื่อเจอเจ้าของอยู่ภายในบ้าน 

            เป็นเรื่องราวของผู้ใช้ Facebook รายหนึ่งได้มีการนำคลิปวีดีโอกล้องวงจรปิดภายในบ้านของตนเอง

มาแชร์ในโซเชียลเพื่อเป็นการให้ทางโซเชียลนั้นช่วยติดตามหาตัวคนร้ายโดยในกล้องวงจรปิดจะเห็นได้ว่าที่บริเวณหน้าบ้านหลังหนึ่งได้มีผู้ชาย 2 คนสวมใส่หมวกและใส่หน้ากากปิดบังใบหน้าปีนเข้ามาที่บริเวณรั้วด้านหน้าของบ้านหลังจากนั้นก็มาที่ประตูทางเข้าหน้าบ้าน

       ในระหว่างที่คนร้ายกำลังจะหาอะไรงัดบานประตูหน้าบ้านอยู่นั้น ปรากฏว่าคนร้ายได้มองเห็นภายในบ้านหลังจากนั้นคนร้ายทั้งสองคนก็พากันวิ่งออกจากประตูและปีนกำแพงรั้วบ้านหนีทันทีอย่างไรก็ตามเจ้าของโพสต์ได้มีการให้ข้อมูล

เพิ่มเติมว่าจนแสบทั้งสองคนนั้นปีนรั้วหวังที่จะเข้ามาขโมยทรัพย์สินภายในบ้านแต่บังเอิญว่าในขณะที่กำลังจะงัดประตูบ้านเข้ามากับได้ยินเสียงว่าภายในบ้านและมีคนอาศัยอยู่แล้วมองเห็นคนเดินอยู่ภายในบ้านทำให้โจรนั้นตกใจพากันหนีหายไป 

           อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ในครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 5 เดือนมีนาคมปีพศ. 2565 ซึ่งสถานที่เกิดเหตุนั้นเป็นบ้านหลังหนึ่งในจังหวัดระยองโดยเจ้าของบ้านนั้นอายุ 52 ปี  ได้ให้ข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจรวมถึงผู้สื่อข่าวที่ไปทำข่าวหลังจากที่คลิปดังกล่าว

มีการใช้การโด่งดังในโลกออนไลน์โดยทางเจ้าของบ้านระบุว่าคนร้ายนั้นได้ขับรถยนมาจอดอยู่ที่หน้าบ้านบริเวณกำแพงบ้านหลังจากนั้นคนร้ายซึ่งคาดว่าเจ้าของบ้านไม่อยู่บ้านจึงได้ปีนกำแพงเข้ามาด้วยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นเป็นช่วงเวลากลางวันซึ่งเป็นช่วงเวลาประมาณบ่ายโมงกว่าๆ 

          อย่างไรก็ตามโชคดีมากที่คนร้ายไม่ได้มีการขโมยทรัพย์สินอะไรไปเพราะไปเจอว่าเจ้าของบ้านยังคงอาศัยอยู่ภายในบ้านแล้วไม่ได้ออกไปนอกบ้านทำให้คนร้ายนั้นตกใจและวิ่งหนีไป  ซึ่งคลิปนี้ทางเจ้าของบ้านนั้นอยากจะให้คนในโลกออนไลน์

นั้นช่วยสังเกตว่าคนร้าย 2 คนที่อยู่ในคลิปนั้นเป็นใครเพื่อจะได้นำบ่สายดังกล่าวไปให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเนื่องจากว่าได้มีการนำคลิปไปให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตามหาคนร้ายแล้ว

      นอกจากนี้เจ้าของบ้านวัย 52 ปียังได้มีการประสานงานขอความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มีการส่งสายตรวจมาขับวนภายในหมู่บ้านเพื่อความปลอดภัยของประชาชนที่อยู่อาศัยภายในหมู่บ้านรวมถึงอยากจะให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยมาทำการตั้งด่านตรวจบ่อยๆเพราะเกรงว่ามิจฉาชีพหรือพวกโจรขโมยนั้นจะออกอาละวาดเนื่องจากในช่วงนี้เป็นช่วงที่เศรษฐกิจไม่ค่อยดีหลายคนตกงานดังนั้นอาจจะมีคนต้องการใช้วิธีลัดด้วยการออกขโมยหาเงินมาใช้นั่นเอง

 

สนับสนุนโดย.  เครื่องช่วยฟัง

ลูกค้าไปเที่ยวคาเฟ่แมว แอบเปิดกรงแมว ทำแมวกัดกันได้รับบาดเจ็บ 

          ในโลกออนไลน์ได้มีร้านคาเฟ่สัตว์เลี้ยงร้านหนึ่งโพสต์ข้อความลงในโซเชียลวันที่ 6 เดือนเมษายนปีพศ. 2565 โดยข้อความที่โพสต์นั้นเป็นการโพสต์ต่อว่าลูกค้าที่ไปใช้บริการที่ร้านคาเฟ่ของตนเอง

ซึ่งได้มีการนำคลิปภาพถ่ายจากกล้องวงจรปิดภายในร้านนำมาลงโซเชียลให้ชาวเน็ตได้ดูกันด้วยโดยทางเจ้าของร้านนั้นไม่พอใจพฤติกรรมของลูกค้าที่ไปใช้บริการที่ร้านจึงได้นำข้อความนี้มาโพสต์เพื่อเป็นการเตือนสำหรับใครที่จะไปเที่ยวคาเฟ่สัตว์เลี้ยงนั้นว่าอย่าฝ่าฝืนกฎของทางร้านเพราะมันจะส่งผลต่อสัตว์เลี้ยงของทางร้าน

        สำหรับภาพในคลิปจะเห็นได้ว่าได้มีลูกค้าใช้ท่านหนึ่งเข้าไปใช้บริการคาเฟ่สัตว์เลี้ยงน้องหมาและน้องแมว

โดยคาเฟ่ดังกล่าวนั้นอยู่ที่จังหวัดชลบุรีอย่างไรก็ตามในขณะที่พนักงานงานกำลังยุ่งอยู่แล้วไม่ได้อยู่ตรงบริเวณกรงของสัตว์เลี้ยงนั้นปรากฏว่าลูกค้าชายได้โดยไปที่กรงสัตว์เลี้ยงแล้วมีการเปิดกรงสัตว์ทั้งที่ทางพนักงานก็ได้มีการแจ้งแล้วว่าจะมีสัตว์เลี้ยงที่ถูกขังไว้ในกรงห้ามเปิดออกมาโดยเด็ดขาดเนื่องจากว่ามีน้องแมวที่ไม่ถูกกันถูกขังเอาไว้ในกล่องเพื่อที่จะได้แยกกันซึ่งนอกจากพนักงานจะบอกกับลูกค้าแล้วยังมีการติดป้ายเอาไว้อย่างชัดเจนเกี่ยวกับเรื่องของการห้ามเปิดกรงแมว

          อย่างไรก็ตามชายคนดังกล่าวไม่ได้เพียงแค่เปิดกรงแมวเล่นเท่านั้นแต่ยังนำแมวเอาไปไว้ในกรงเดียวกันซึ่งแมวทั้ง 2 ตัวนั้นไม่ถูกกันทำให้แมวนั้นกัดกันภายในกองจนได้รับบาดเจ็บนอกจากนี้จะเห็นได้ว่าหลังจากที่ทำพฤติกรรมที่ฝ่าฝืนจากที่ทางร้านระบุเอาไว้แล้วทั้งลูกค้าเองก็ไม่ได้มีการแจ้งให้ทางร้านทราบว่าได้มีการกระทำดังกล่าวและแมวกัดกันจนได้รับบาดเจ็บกับปล่อยเรื่องราวนิ่งเฉยและออกจากร้านไปกว่าทางร้านจะมาเห็นว่าแมวกัดกันนั้นสภาพแมวก็ได้บาดเจ็บเป็นแผลเวอะหวะ

           ซึ่งการกระทำดังกล่าวนั้นถือว่าเป็นการกระทำที่ไม่น่ารักและสำหรับคนที่เป็นทาสแมวถ้าสัตว์เลี้ยงนั้นเรียกได้ว่าเป็นการทำร้ายจิตใจเป็นอย่างมากเพราะสงสารแมวมากที่ได้รับบาดเจ็บอย่างไรก็ตามเจ้าของคาเฟ่ยังระบุด้วยว่าทางร้านจะมีการเขียนข้อปฏิบัติข้อบังคับและขอความร่วมมือกับลูกค้าแปะไว้ที่บริเวณหน้าห้องของสัตว์เลี้ยงทุกห้อง  ไม่ว่าจะเป็นการห้างเปิดกรงสัตว์หรือแม้แต่การใส่รองเท้าเข้าไปในห้อง

          อย่างไรก็ตามทางเจ้าของร้านยืนยันว่าเรื่องนี้ต้องการที่จะแชร์ให้กับคนที่จะไปใช้บริการคาเฟ่แมวหรือคาเฟ่สุนัขว่าควรที่จะปฏิบัติตามกฎของทางคาเฟ่เนื่องจากว่ากดแต่ละกฎนั้นทางร้านจะมีการพิจารณาอยู่แล้วว่าตั้งขึ้นมาเพื่อประโยชน์ของสัตว์เลี้ยงมากที่สุดนั่นเองและถ้าหากใครที่ไม่ชื่นชอบสัตว์เลี้ยงก็ไม่ควรไปเที่ยวคาเฟ่

 

สนับสนุนโดย.    alpha88