หนุ่มอินเดีย มาทำงานที่ไทยเกิดภาวะเครียดตัดสินใจจุดไฟเผาตัวเอง 

          เมื่อวันที่ 3 เดือนสิงหาคมปีพ. ศ. 2564   เครียดตัดสินใจจุดไฟเผาตัวเอง  เจ้าหน้าที่ตำรวจในจังหวัดสมุทรปราการได้รับแจ้งเหตุจากชาวบ้านว่า ที่ตำบลท้ายบ้านใหม่มีห้องเช่าหลังหนึ่งเกิดเพลิงไหม้ทางด้านเจ้าหน้าที่จึงได้นำกำลังเจ้าหน้าที่กู้ชีพและประสานงานรถดับเพลิงไปยังจุดที่เกิดเพลิงไหม้ทันทีซึ่งจุดดังกล่าวนั้นเป็นอาคารสูงมีทั้งหมด 6 ชั้นด้วยกันจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าต้นเหตุของเพลิงไหม้นั้นเกิดขึ้นตรงบริเวณชั้น 2 ซึ่งก่อนที่ทางเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจะเดินทางไปถึงชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวต่างก็ช่วยกันนำถังดับเพลิงมาฉีดเพื่อระงับไฟไม่ให้ไฟลุกลามไปยังที่อื่น

         ภายหลังจากที่เหตุการณ์เพลิงไหม้สงบลงเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เข้าไปในพื้นที่เพื่อตรวจสอบสภาพของตัวอาคารพบว่าภายในนั้นมีคนบาดเจ็บจากการถูกไฟไหม้ 1 คนซึ่งนอนอยู่บนที่นอนในสภาพที่ตัวดำไหม้เกรียมทั้งตัวทั้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงได้ปฐมพยาบาลเบื้องต้นและส่งโรงพยาบาลประจำจังหวัดอย่างเร่งด่วนทันที

     อย่างไรก็ตามเนื่องจากว่าสภาพบาดแผลนั้นถูกไม่เกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ทำให้ผู้เสียชีวิตและเสียชีวิตในเวลาต่อมาและจากการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นพบว่าคนที่เสียชีวิตนั้นชื่อว่านาย ธีรุวดี   ซึ่งชายคนดังกล่าวนี้เป็นชายชาวอินเดียมาอาศัยอยู่ในประเทศไทยได้ 3 ปีแล้วโดยมาทำงานที่บริษัทแห่งหนึ่งในประเทศไทยในตำแหน่งซุปเปอร์ไวเซอร์นั่นเอง 

       จากการตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่าภายในบริเวณชั้น 2 ซึ่งเป็นห้องของผู้เสียชีวิตนั้นมีถังพลาสติกซึ่งไฟยังลุกไม่อยู่และถังพลาสติกนี้ก็วางอยู่บนที่นอนในขณะที่ภายในห้องที่เกิดเพลิงไหม้นั้นก็มีกลิ่นของน้ำมันเบนซินฟุ้งกระจายไปทั่วห้องซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่าเหตุการณ์ไฟไหม้ในครั้งนี้ไม่ได้เกิดจากอุบัติเหตุแต่เกิดจากการวางเพลิงโดยผู้เสียชีวิตเอง

        ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบปากคำคนอื่นที่เป็นคนอินเดียเหมือนกันเพื่อนของผู้เสียชีวิตให้ข้อมูลว่าผู้เสียชีวิตนั้นก่อนหน้านี้มีอาการไม่สบายแต่จากการตรวจร่างกายแล้วไม่พบว่าติดเชื้อไวรัสโควิด ซึ่งได้มีการรักษาอาการป่วยไปประมาณ 2 สัปดาห์หลังจากหายป่วยดีแล้วก็กลับมาทำงานตามปกติ  

   อย่างไรก็ตามเพื่อนของผู้เสียชีวิตบอกว่าพวกเขาไม่ทราบสาเหตุของการก่อเหตุวางเพลิงฆ่าตัวตายในครั้งนี้เนื่องจากว่าผู้เสียชีวิตก็ไปทำงานตามปกติและไม่มีการออกมาเล่าถึงความเครียดของตนเองให้คนอื่นฟังอย่างไรก็ตามในช่วงที่มีการเกิดเพลิงในนั้นเพื่อนของผู้เสียชีวิตกำลังนอนหลับอยู่ในห้องแล้วเกิดได้ยินเสียงระเบิดเมื่อเปิดประตูออกมาก็เห็นว่าห้องผู้เสียชีวิตนั้นมีไฟไหม้จึงได้รีบตะโกนขอความช่วยเหลือจนสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้นั่นเอง 

 

สนับสนุนโดย.  aesexy

ลูกสาวฝาแฝดของพลเอกประยุทธ์  จันทร์โอชา  ได้รับจดหมายจากกลุ่มเพื่อนร้องขอให้ฟังเสียงประชาชนด้วยการลาออก 

       เมื่อวันที่ 1 เดือนสิงหาคมปีพศ 2564 ได้มีการเปิดเผยออกมาจากสำนักข่าวแห่งหนึ่งว่าในขณะนี้ กลุ่มเพื่อนร้องขอให้ฟังเสียงประชาชน ที่เป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัยจุฬาเรียนคณะนิเทศศาสตร์ซึ่งเป็นรุ่นเดียวกับลูกสาวของนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน  พลเอกประยุทธ์  จันทร์โอชา   ได้มีการรวมกลุ่มกันและเขียนจดหมายไปถึงลูกสาวฝาแฝดของพลเอกประยุทธ์โดยข้อความในจดหมายนั้นเพื่อนๆมีการเขียนว่าพวกเขานั้นเรียนอยู่รุ่นเดียวกันนั่นก็คือรุ่น 40 

       พวกเขารู้ดีว่าพลอยและเพลินเป็นลูกสาวของนายกแต่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการบริหารงานของประเทศของพ่อแต่พวกเขาเห็นว่าสถานการณ์ในตอนนี้ภายใต้การบริหารงานของพ่อของพลอยและเธอนั้นทำให้ประเทศไทยกำลังประสบกับวิกฤติอย่างหนักผู้คนพากันล้มตายจากการติดเชื้อไวรัสโควิด

      กลุ่มเพื่อนร้องขอให้ฟังเสียงประชาชน  ที่สำคัญโรงพยาบาลสาธารณสุขอยู่ในขั้นวิกฤตเพราะไม่มีเตียงเพียงพอที่จะรองรับผู้ป่วยมีคนล้มตายอยู่ข้างถนนแต่ภายใต้การนำของพลเอกประยุทธ์ซึ่งเป็นพ่อของพลอยและเพลิน นั้นก็ยังคงไม่ให้ความสนใจกับประชาชนยังคงออกกฎหมายควบคุมและปิดบังข้อมูลบางส่วนไม่ให้ประชาชนรับทราบข้อเท็จจริงและที่สำคัญไม่ยอมรับความคิดเห็นของประชาชน 

      นอกจากนี้ในจดหมายยังระบุอีกด้วยว่าบรรดาเพื่อนๆของพลอยและเพลิน นั้นทราบดีว่า   พลอยและเพลินคงไม่ได้อยากเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการทำงานบริหารประเทศของพ่อแต่เพื่อนๆนั้นไม่สามารถที่จะทนระบอบการปกครองประเทศของนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันได้แล้วเพราะสถานการณ์ในตอนนี้หลายคนสิ้นหวังจากการบริหารประเทศที่ผิดพลาดของพลเอกประยุทธ์  จันทร์โอชาหลายคนฆ่าตัวตายและเจ้าของธุรกิจหลายคนก็ประสบปัญหาพิเศษสะกิดเจ้าของธุรกิจหลายรายต้องปิดกิจการลงมีผู้คนมากมายที่ต้องฆ่าตัวตายและผู้คนมากมายนั้นตกงาน

       ในขณะเดียวกันการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิคก็ยังไม่สามารถทำได้ดังนั้นด้วยสถานการณ์ที่เลวร้ายแบบนี้พวกเพื่อนๆของพลอยและเพลินจึงได้ตัดสินใจเขียนจดหมายมาหาพลอยและเพลินเพื่อให้พลอยเพลินนั้นช่วยคุยกับพ่อซึ่งก็คือพลเอกประยุทธ์จันทร์โอชานั้นเองโดยหวังว่าปล่อยแล้วเพลินจะสามารถกล่อมให้พ่อของเธอนั้นลาออกจากตำแหน่งการเป็นนายกรัฐมนตรีทันทีเพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนสามารถเลือกคนที่มีความรู้ความสามารถเข้าไปบริหารประเทศแทนได้

        เพราะเพื่อนของพลอยเพลินยืนยันว่าพวกเขาได้มีการอดทนมานานแล้วกับการบริหารภาครัฐภายใต้การบริหารงานของพลเอกประยุทธ์จันทร์โอชาแต่ไม่ได้มีอะไรดีขึ้นมาเลยซึ่งในขณะนี้ญาติพี่น้องของเพื่อนๆของพลอยและเพลินนั้นก็คือกลุ่มคนที่กำลังประสบปัญหาจากการบริหารงานผิดพลาดของพลเอกประยุทธ์จันทร์โอชาเช่นเดียวกัน

         อย่างไรก็ตามสำหรับจดหมายฉบับนี้ไม่ได้มีการเกริ่นมาว่าถูกเผยแพร่ออกมาอย่างไรและหลังจากที่ลูกสาวฝาแฝดของพลเอกประยุทธ์จันทร์โอชาได้รับจดหมายฉบับนี้แล้วเธอจะทำตามความเรียกร้องของเพื่อนๆของเธอหรือไม่ซึ่งในตัวจดหมายนั้นได้มีการแนบชื่อของเพื่อนๆทุกคนที่เรียนรุ่นปี 40  ที่ร่วมกันเขียนจดหมายฉบับนี้ลงไปด้วย 

 

สนับสนุนโดย.  หวยออนไลน์บาทละ 1000