ชายวัย 59 ปีแจ้งเจ้าหน้าที่จับกุมสาวหลอกให้โอนเงินเป็นแสนหลังคุยกัน 2 ปี ผ่านทาง Social Media 

ชายวัย 59 ปีแจ้งเจ้าหน้าที่   เมื่อวันที่ 27 เดือนตุลาคมปีพศ 2564    มีชายวัย 59 ปีได้เดินทางไปที่สภสันกำแพงจังหวัดเชียงใหม่เพื่อเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับหญิงสาวรายหนึ่งโดยระบุว่าหญิงสาวดังกล่าวนั้นได้มีการหลอกลวงหลอกคบหากันจนทำให้เขาหลงรักและมีการโอนเงินไปให้ใช้จ่ายเป็นจำนวนแสนบาทแต่แล้วหญิงสาวก็ทอดทิ้งเขา  

 อย่างไรก็ตามชายวัย 59 ปีได้ให้ข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเพิ่มเติมว่าเขารู้จักกับหญิงสาวคนดังกล่าวมานานถึง 2 ปีแล้ว

โดยรู้จักการผ่านทาง facebook หลังจากนั้นก็มีการพูดคุยกันเลยมาด้วยหญิงสาวบอกเขาว่าเธอทำงานเป็นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนซึ่งตลอดระยะเวลาที่คบหากันก็คบหากันในลักษณะของคนรัฐและตั้งใจที่จะใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันโดยหญิงสาวนั้นมักเจ้าของเงินให้เขาโอนไปให้ช่วยเหลืออยู่เป็นประจำแต่ตลอดระยะเวลา 2 ปีที่คบหากันเขาก็ไม่เคยเห็นตัวจริงของหญิงสาวมาก่อนเห็นแค่รูป profile ใน facebook เท่านั้น

       อย่างไรก็ตามหลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับทราบข้อมูลก็ออกปฏิบัติการตามหาหญิงสาวคนดังกล่าวทันทีซึ่งหญิงสาวได้หลบหนีอยู่ที่จังหวัดนครสวรรค์ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้มีการควบคุมตัวมาที่จังหวัดเชียงใหม่เพื่อดำเนินคดีในข้อหาฉ้อโกงโดยมีชายวัย 59 ปี

ซึ่งเป็นผู้เสียหายเดินทางมาที่สถานีตำรวจเพื่อต้องการดูหน้าคนร้ายหลังจากที่เดินทางมาถึงชายวัย 59 ปีก็ถึงกับผงะเนื่องจากว่าคนร้ายมีหน้าตาไม่ตรงกับใน Facebook ซึ่งเธอนั้นได้ไปเอาภาพคนอื่นมาสร้างเป็นโปรไฟล์ของตนเอง

       ที่สำคัญข้อมูลส่วนตัวที่เธอให้กับชายวัย 59 ปีนั้นเป็นข้อมูลเท็จทั้งหมดโดยเธอไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่ตชดเธอเป็นเพียงแค่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหรือรปภเพียงเท่านั้น  อย่างไรก็ตามทางด้านผู้เสียหายยืนยันที่จะดำเนินคดีกับคนร้ายให้ถึงที่สุดเพื่อที่จะได้หลับจำและไม่ไปหลอกลวงคนอื่น

โดยทางผู้เสียหายยอมรับกับนักข่าวว่าเขาหลงรักหญิงสาวมานานมีการพูดคุยตกลงกันพร้อมที่จะใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันแต่มาถูกหลอกลวงแบบนี้เขายอมรับไม่ได้ที่สำคัญเขาเสียเงินไปเป็นแสนแม้แต่แขนเขาก็ยังไม่ได้จับของหญิงสาวเลย

           สำหรับคดีฉ้อโกงในลักษณะของการโอนเงินไปให้อีกฝ่ายหนึ่งที่รู้จักผ่านทาง Social Media และสัญญาเป็นแฟนกันนั้นไม่ใช่เค้กแค่ของคุณลุงวัย 59 ปีเคสนี้เคสเดียวแต่ก่อนหน้านี้ก็มักจะมีคดีในลักษณะแบบนี้เกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้งซึ่งมักจะเจอกันผ่านทาง Social Media  และส่วนใหญ่ผู้เสียหายมักจะหลงผู้ Profile ยังไม่เห็นตัวจริงก็มีการโอนเงินไปให้เขาเป็นจำนวนหลายแสนโดยเรื่องแบบนี้เป็นข่าวโด่งดังอยู่บ่อยครั้งเพื่อต้องการให้เป็นอุทาหรณ์ของคนที่เล่นโซเชียลแต่ก็มักจะยังเห็นคนถูกหลอกแบบนี้เพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ 

 

สนับสนุนโดย.    aesexy

หนุ่มอินเดีย มาทำงานที่ไทยเกิดภาวะเครียดตัดสินใจจุดไฟเผาตัวเอง 

          เมื่อวันที่ 3 เดือนสิงหาคมปีพ. ศ. 2564   เครียดตัดสินใจจุดไฟเผาตัวเอง  เจ้าหน้าที่ตำรวจในจังหวัดสมุทรปราการได้รับแจ้งเหตุจากชาวบ้านว่า ที่ตำบลท้ายบ้านใหม่มีห้องเช่าหลังหนึ่งเกิดเพลิงไหม้ทางด้านเจ้าหน้าที่จึงได้นำกำลังเจ้าหน้าที่กู้ชีพและประสานงานรถดับเพลิงไปยังจุดที่เกิดเพลิงไหม้ทันทีซึ่งจุดดังกล่าวนั้นเป็นอาคารสูงมีทั้งหมด 6 ชั้นด้วยกันจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าต้นเหตุของเพลิงไหม้นั้นเกิดขึ้นตรงบริเวณชั้น 2 ซึ่งก่อนที่ทางเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจะเดินทางไปถึงชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวต่างก็ช่วยกันนำถังดับเพลิงมาฉีดเพื่อระงับไฟไม่ให้ไฟลุกลามไปยังที่อื่น

         ภายหลังจากที่เหตุการณ์เพลิงไหม้สงบลงเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เข้าไปในพื้นที่เพื่อตรวจสอบสภาพของตัวอาคารพบว่าภายในนั้นมีคนบาดเจ็บจากการถูกไฟไหม้ 1 คนซึ่งนอนอยู่บนที่นอนในสภาพที่ตัวดำไหม้เกรียมทั้งตัวทั้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงได้ปฐมพยาบาลเบื้องต้นและส่งโรงพยาบาลประจำจังหวัดอย่างเร่งด่วนทันที

     อย่างไรก็ตามเนื่องจากว่าสภาพบาดแผลนั้นถูกไม่เกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ทำให้ผู้เสียชีวิตและเสียชีวิตในเวลาต่อมาและจากการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นพบว่าคนที่เสียชีวิตนั้นชื่อว่านาย ธีรุวดี   ซึ่งชายคนดังกล่าวนี้เป็นชายชาวอินเดียมาอาศัยอยู่ในประเทศไทยได้ 3 ปีแล้วโดยมาทำงานที่บริษัทแห่งหนึ่งในประเทศไทยในตำแหน่งซุปเปอร์ไวเซอร์นั่นเอง 

       จากการตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่าภายในบริเวณชั้น 2 ซึ่งเป็นห้องของผู้เสียชีวิตนั้นมีถังพลาสติกซึ่งไฟยังลุกไม่อยู่และถังพลาสติกนี้ก็วางอยู่บนที่นอนในขณะที่ภายในห้องที่เกิดเพลิงไหม้นั้นก็มีกลิ่นของน้ำมันเบนซินฟุ้งกระจายไปทั่วห้องซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่าเหตุการณ์ไฟไหม้ในครั้งนี้ไม่ได้เกิดจากอุบัติเหตุแต่เกิดจากการวางเพลิงโดยผู้เสียชีวิตเอง

        ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบปากคำคนอื่นที่เป็นคนอินเดียเหมือนกันเพื่อนของผู้เสียชีวิตให้ข้อมูลว่าผู้เสียชีวิตนั้นก่อนหน้านี้มีอาการไม่สบายแต่จากการตรวจร่างกายแล้วไม่พบว่าติดเชื้อไวรัสโควิด ซึ่งได้มีการรักษาอาการป่วยไปประมาณ 2 สัปดาห์หลังจากหายป่วยดีแล้วก็กลับมาทำงานตามปกติ  

   อย่างไรก็ตามเพื่อนของผู้เสียชีวิตบอกว่าพวกเขาไม่ทราบสาเหตุของการก่อเหตุวางเพลิงฆ่าตัวตายในครั้งนี้เนื่องจากว่าผู้เสียชีวิตก็ไปทำงานตามปกติและไม่มีการออกมาเล่าถึงความเครียดของตนเองให้คนอื่นฟังอย่างไรก็ตามในช่วงที่มีการเกิดเพลิงในนั้นเพื่อนของผู้เสียชีวิตกำลังนอนหลับอยู่ในห้องแล้วเกิดได้ยินเสียงระเบิดเมื่อเปิดประตูออกมาก็เห็นว่าห้องผู้เสียชีวิตนั้นมีไฟไหม้จึงได้รีบตะโกนขอความช่วยเหลือจนสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้นั่นเอง 

 

สนับสนุนโดย.  aesexy