อัพเดทข่าววันนี้ ข่าวล่าสุด ข่าวฮิต ข่าวฮอต ข่าวบันเทิง

สถานการณ์ที่ได้มีการเคลื่อนกองทัพนั้นได้ออกมาบอกว่าเป็นการเคลื่อนแบบปกติเป็นการเคลื่อนกำลังออกมาเพื่อจะมาทำการฝึกนั้นเป็นเรื่องธรรมดาแต่อย่าลืมว่ามันเป็นเรื่องที่ธรรมดาหรือไม่ก็ไม่รู้แต่รัฐประหาร 19กันยายน 2549 นั้นก่อนที่จะมีการรัฐประหารก็มีการเคลื่อกำลัง

โดยพลเอกสนธิ บุญยรัตกลินก็ได้ประกาศว่าเป็นการเคลื่อนกำลังเพื่อเป็นการฝึกเหล่าทหารเหมือนกันทั้งนี้ในความพยายามของกองทัพนั้นที่จะทำการจัดหนักเหล่าพรรคการเมืองโดยเฉพาะพรรคเพื่อไทยนั้นวันนี้คุณยุทธพงศ์ จรัสเสถียรที่เป็น สส. ของพรรคเพื่อไทยได้ออกมาบอกว่าทางฝั่งของกองทัพเรืออย่างรุนแรง

หลังจากที่โดนกองทัพเรือแจ้งจับคุณยุทธพงศ์ จรัสเสถียรเขายังได้กล่าวอีกว่าถ้าหากว่าทางฝั่งของกองทัพเรือนั้นยังไม่เลิกในฐานะที่คุณยุทธพงศ์ จรัสเสถียรนั้นได้เป็นฝ่ายทางกรรมาธิการและยังเป็น สส. นั้นคุณยุทธพงศ์ จรัสเสถียรเขาก็จะเดินทางไปแจ้งความดำเนินคดีกับทางฝั่งกับทาง ปปช. 

เรื่องของที่มีผู้บัญชาการกองทัพเรือเรื่องของการจัดซื้อเรือดำน้ำว่ามันไม่ใช่เป็นการจัดซื้อที่ชอบธรรมโดยกฎหมายและมันก็ไม่ได้เป็นการจัดซื้อที่ทำตามจีทูจีแต่มันได้เป็นการจัดซื้อในระหว่างนายหน้าค้าอาวุธกับเฮียตี๋บางคน

ซึ่งมันไม่ได้เป็นการจัดซื้อระหว่างรัฐต่อรัฐและคุณยุทธพงศ์ จรัสเสถียรเขายังยืนยันอีกว่าเรื่องนี้หากว่าเอาจริงๆแล้วขยายแบบจริงๆแล้วในที่สุดกองงทัพเรือจะไม่สามารถซื้อเรือดำน้ำทั้ง2ลำได้การซื่อเรือดำน้ำลำแรกจะกลายเป็นโมฆะ เช่นเดียวกับเรื่องนี้จะนำไปสู่ผลกระทบระดับสินามิทางการเมืองต่อนายประวิตรและนายประยุทธ์

เนื่องจากว่าทั้ง2คนนี้ได้เป็นรัฐมนตรีกลาโหมในปัจจุบันและเป็นรัฐมนตรีกลาโหมหลังปี2557ในคำพิพาทษาของศาลฎีกาได้เคยตัดสินเอาไว้ว่ายังไงบ้าง 1 การที่จะเป็น จีทูจี จะต้องเป็นไปตลอดเวลาของการดำเนินการและมันหมายความว่ามันไม่ใช่ว่าคุณเริ่มจากจีทูจีแต่พอดำเนินการไปและได้ไปเปลี่ยนแปลงเป็นบริษัทหรือเป็นองค์กรที่ไม่ใช่รัฐบาลเป็นไปไม่ได้

ซึ่งในตอนเริ่มนั้นรัฐบาลไทยกับรัฐบาลจีนแต่ระหว่างทางมันเป็นยังไงมันกลายเป็น พลเรือเอกแอดมินเลอร์ ลือชัย เสนาธิการทหารเรือ กับ เฮียตี๋ ต่อมาการที่จะชำระเงินมันจะต้องเป็นการชำระเงินระหว่างรัฐบาลด้วยกันไม่ใช่ไปชำระเงินให้กับบริษัทหรือองค์กรที่ไม่ใช่รัฐบาล

การซื้อขายในครั้งนี้ในตอนจ่ายเงินทำไมไม่จ่ายให้กับรัฐบาลจีนหรือกระทรวงกลาโหมจีนหรือกระทรวงการคลังประเทศจีนแต่ไปจ่ายเงินให้กับบริษัทที่ปักกิ่งเจตนาที่ทำไปก็เพื่อจรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน

สนับสนุนโดย  คาสิโนออนไลน์ เครดิตฟรี

สุดสยองคนเวียดนามหันมากินซุปแมวดำเพราะมีความเชื่อว่าจะรักษาโรคไวรัสโควิด-19ได้

        มีรายงานข่าวจากเว็บไซต์ของประเทศอังกฤษเมื่อวันที่ 24 เดือนเมษายนปีพศ 2563 โดยในเว็บไซต์ได้มีการรายงานถึงประชาชนคนเวียดนามที่ปัจจุบันนี้หันมากินซุปแมวดำด้วยเหตุการณ์ในครั้งนี้เกิดขึ้นเนื่องจากว่ามีข่าวลือออกมาเกี่ยวกับวิธีการรักษาการติดเชื้อไวรัสโคโรน่าว่าถ้าหากไม่อยากติดเชื้อไวรัสชนิดนี้จะต้องนำแมวดำมาต้มกินซึ่งลักษณะของการกินแมวดำนั้นเป็นการนำแมวดำมาต้มสกัดเอาน้ำซุปไปกินโดยมีความเชื่อกันว่าการกินแนวจะช่วยป้องกันการติดเชื้อไวรัสโคโรน่าได้ซึ่งจริงๆแล้วเป็นแนวอะไรก็ได้แต่ถ้าอยากได้ผลดีมากที่สุดจะต้องเป็นแมวดำเท่านั้น โดยในรายงานข่าวนั้นไม่ได้มีแค่ข้อความอย่างเดียว

แต่พวกเขายังมีภาพที่แสดงให้เห็นว่าคนเวียดนามมีการเลี้ยงแมวดำไว้เป็นจำนวนมากและเขาก็นำแมวดำมาถลกหนังถอนขนออกหลังจากนั้นก็นำไปใส่หม้อน้ำที่มีการต้มเดือดซึ่งในคลิปจะมีขั้นตอนการผลิตการทำน้ำซุปแมวดำโดยมีการโฆษณาว่าหากมีการกินซุปแมวดำแล้วจะทำให้หายป่วยจากโรคภัยต่างๆซึ่งยังสามารถรักษาโรคไวรัสโคโรน่าได้อีกด้วยโดยคลิปวีดีโอดังกล่าวอ้างว่าถ่ายมาจากโรงงานแห่งหนึ่งในกรุงฮานอย

ซึ่งคลิปนี้มีการกระจายออกไปทั่วโลกโดยมีการนำเสนอขายให้กับประชาชนทั่วโลกเพื่อเอาไปกินป้องกันการติดเชื้อไวรัสโคโรน่าและในขณะนี้เองคนเวียดนามส่วนใหญ่ก็เริ่มหันมานิยมกินซุปแมวดำกันเป็นจำนวนมากด้วยคนที่สั่งซื้อส่วนใหญ่นั้นจะเป็นคนที่มีญาติติดเชื้อไวรัสโคโรน่าอยู่แล้วซื้อไปกินเพราะกลัวว่าตนเองจะติดเชื้อตามญาติ สำหรับเรื่องดังกล่าวนี้ทางองค์กรปกป้องสิทธิสัตว์ได้ออกมาพูดถึงเรื่องนี้ว่ายังไม่เคยมีใครมีการตรวจสอบว่าแมวดำเมื่อกินแล้วจะรักษาเชื้อไวรัสโคโรน่าได้จริง

แต่เบื้องต้นทางสัตวแพทย์ออกมาให้ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่าการนำแมวดำมาทำซุปและนำไปกินนั้นถือว่าเป็นอันตรายเป็นอย่างมากซึ่งถ้าหากขั้นตอนการปรุงไม่ถูกวิธีหรือปรุงแล้วไม่สุกหรือแมวที่จับมานั้นมาจากแหล่งที่มีการเพาะพันธุ์เชื้อโรคหรือตัวแมวนั้นมีเชื้อโรคอยู่การที่เรานำแมวมาทำซุปกินเราก็อาจจะติดโรคจากแมวได้เช่นเดียวกันที่สำคัญหากแมวที่เราจับมานั้นเป็นแมวจรจัดเสียงอย่างมาก

ที่เราอาจจะกินสีของพยาธิเข้าไปซึ่งมันจะเข้าไปเติบโตในร่างกายของมนุษย์ได้แล้วสร้างอันตรายให้กับมนุษย์เป็นอย่างมาก ที่สำคัญเป็นอย่างมากที่จะมีการติดเชื้อพิษสุนัขบ้ามาจากแมวซึ่งถ้าหากแมวมีเชื้ออยู่ก็อาจจะทำให้คนที่กินเข้าไปเสียชีวิตได้หรือแม้แต่คนท้องหากมีการกินรกแมวดําเข้าไปก็อาจจะส่งผลให้แท้งลูกได้เช่นเดียวกันดังนั้นทางที่ดีไม่ควรที่จะเสี่ยงกินซุปแมวดำ

สนับสนุนโดย  บาคาร่าออนไลน์